บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก มีนาคม, 2020

สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ (ประเทศจีน)

รูปภาพ
"สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้"  ตั้งอยู่ที่เมืองซีอาน ประเทศจีน ถูกค้นพบเมื่อวันที่ 29 มีนาคม ค.ศ.1974 โดยผู้ที่ค้นพบโดยบังเอิญนั้นเป็นชาวนาที่ชื่อ หยางจื้อฟาแห่งหมู่บ้านซีหยาง โดยเขาและพรรคพวกได้ไปขุดดินเพื่อหวังจะทำบ่อน้ำและบังเอิญพบกับแจกันและรูปปั้นทหารดินเผาจึงได้แจ้งทางการ จากนั้นมาทางรัฐบาลจีนก็ได้ส่งทีมไปขุดค้นและสำรวจจนพบว่าสิ่งของที่ค้นพบนั้นมีอายุมากถึงราว 2,000 ปี จึงได้ดำเนินการขุดค้นต่อไป จึงได้พบว่าที่แห่งนี้เป็นมหาสุสานอันยิ่งใหญ่ของจักรพรรดิจิ๋นซีฮ่องเต้ แห่งราชวงศ์ฉิน  โดยมีการค้นพบกองทัพทหารดินเผาที่จัดตำแหน่งตามการออกศึกจริง ๆ 11 แถว โดยถืออาวุธจริงอยู่ในมือ และหน้าตาท่าทางรวมถึงเครื่องแต่งกายนั้นไม่เหมือนกันเลยแม้แต่ตัวเดียว ส่วนความสูงนั้นราว 1.8 เมตร นอกจากนั้นยังมีสรรพาวุธ รถเทียมม้า ม้าศึก รวมแล้วเป็นจำนวนกว่า 7,400 ชิ้นเลยทีเดียว นอกจากนั้นยังมีการสร้างพระราชวังที่เหมือนจริงทุกประการทั้งพระราชฐานชั้นในชั้นนอก ทรัพย์สมบัติ นางกำนัล นางสนม ข้าราชบริพารอีกจำนวนมาก ส่วนสำคัญที่สุดของสุสานนี้ก็คือห้องที่บรรจุพระบรมศพของจิ๋นซีฮ่องเต้ที่ตั้งอยู่บ

กำแพงเมืองจีน (ประเทศจีน)

รูปภาพ
"กำแพงเมืองจีน" มีความยาวถึง 8,850 กิโลเมตร กำแพงเมืองจีนสร้างเมื่อกว่า 2,500 ปีมาแล้ว ตั้งแต่ก่อนสมัยของจิ๋นซีฮ่องเต้ จักรพรรดิองค์แรกในประวัติศาสตร์จีน จุดประสงค์ก็เพื่อป้องกันการรุกรานจากชนเผ่าทางตอนเหนือ โดยมีการก่อสร้างเพิ่มเติมโดยฮ่องเต้องค์ต่อมาอีกหลายพระองค์ จนสำเร็จในที่สุด และนับเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลางด้วย กำแพงเมืองจีนยังคงเรียกว่า "กำแพงหมื่นลี้" สำนักงานมรดกวัฒนธรรมแห่งชาติจีน ประกาศเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2555 ว่านักโบราณคดีได้ตรวจวัดความยาวของสิ่งก่อสร้างจากน้ำมือมนุษย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกหรือ "กำแพงเมืองจีน" อย่างเป็นทางการนานร่วม 5 ปี ตั้งแต่ 2008-2012 และพบว่ายาวกว่าที่บันทึกไว้เดิมกว่า 2 เท่า หรือ 21,196.18 กิโลเมตร จากเดิม 8,850 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ 15 มณฑลทั่วประเทศ และนับเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลางด้วย มีความเชื่อกันว่าหากมองเมืองจีนจากอวกาศจะสามารถเห็นกำแพงเมืองจีนได้ ซึ่งในความเป็นจริงไม่สามารถมองเห็นจากอวกาศได้

พระราชวังต้องห้าม (ประเทศจีน)

รูปภาพ
"นครต้องห้าม" ตั้งอยู่ใจกลางของกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของประเทศจีน และอยู่ทางตอนเหนือของจตุรัสเทียนอันเหมิน พระราชวังแห่งนี้ เป็นเขตหวงห้ามไม่ไห้ประชาชนเข้า แม้แต่ข้าราชการชั้นสูง ยังต้องขออนุญาตเป็นกรณีพิเศษ จึงเรียกพระราชวังนี้ว่า“พระราชวังต้องห้าม” จักรพรรดิจะทรงประทับอยู่ในพระราชวังแห่งนี้ กั้นพระองค์จากโลกภายนอก โดยมีสนมกำนัล ขันที และข้าหลวงรับใช้ ซึ่งคนเหล่านี้ต้องอาศัยอยู่ในนครต้องห้ามตลอดชีวิต พระราชวังต้องห้ามตั้งอยู่ทางทิศเหนือของจตุรัสเทียนอันเหมิน นักท่องเที่ยวสามารถเข้าสู่พระราชวังต้องห้ามได้ทางจตุรัสนี้ ผ่านประตูเทียนอันเหมิน บริเวณรอบจตุรัสเทียนอันเหมิน เรียกว่า อาณาเขตหลวง โดยมีสิ่งก่อสร้างสำคัญอยู่โดยรอบ เช่น มหาศาลาประชาคม ในอดีต พระราชวังแห่งนี้ เป็นเขตหวงห้ามไม่ไห้ประชาชนเข้า แม้ข้าราชการชั้นสูง ยังต้องขออนุญาตเป็นกรณีพิเศษ จึงเรียกพระราชวังนี้ว่า "พระราชวังต้องห้าม" จักรพรรดิจะทรงประทับอยู่ในพระราชวังแห่งนี้ กั้นพระองค์จากโลกภายนอก โดยมีสนมกำนัล ขันที และข้าหลวงรับใช้ซึ่งคนเหล่านี้ต้องอาศัยอยู่ในนครต้องห้ามตลอดชีวิต เพื่อความสำราญข

น้ำตกเต๋อเทียน (ประเทศจีน)

รูปภาพ
"น้ำตกเต๋อเทียน" เป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นน้ำตกข้ามชาติที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก!! น้ำตกเต๋อเทียนตั้งอยู่ในเขตปกครองต้าซิน เมืองฉงจั่ว เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงนี่เอง ตั้งอยู่ที่ทางต้นน้ำของแม่น้ำกุยชุนเหอ ในต้าซิน ประมาณ 50 เมตรจากเขตแดนที่ 53 ระหว่างจีนและเวียดนาม โดยแม่น้ำกุยชุนเหอเป็นแม่น้ำสายย่อยของแม่น้ำจั่วเจียง และเป็นแม่น้ำที่แบ่งเขตแดนระหว่างจีน และเวียดนามอีกด้วย ความไฮโซของแม่น้ำเต๋อเทียนคือมีความกว้างถึง 200 เมตร ลึกมากกว่า 60 เมตร และสูงถึง 70 เมตร การไหลเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 50 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที น้ำตกเต๋อเทียนมีความกว้างกว่า 200 เมตร และสูงกว่า 70 เมตร โดยมันจะตกลงมาอย่างแรง ผ่านหน้าผาถึงสามชั้น เวลากระแสน้ำตกลงมาดูแล้ว ให้อารมณ์น่าเกรงขามสุดๆ เราจะได้ยินเสียงการตกของน้ำก่อนที่จะเห็นกระแสน้ำซะอีก คือแบบเพลิดเพลินกันเลยจริงๆ  วิวที่นี่ในแต่ละฤดูก็เริ่ดเลอกันคนละแบบ หากมาช่วงฤดูใบไม้ผลิจะเห็นวิวสีแดงสะพรั่งของต้นนุ่น ที่ล้อมรอบบริเวณน้ำตก และเชื่อว่ามันสื่อถึงการประสบความสำเร็จอีกด้วย หรือหากมาช่วงฤดูใบไม้ร่วงจาก

พระใหญ่หลิงซานต้าฝอ (ประเทศจีน)

รูปภาพ
"พระใหญ่หลิงซานต้าฝอ" ในเมืองอู๋ซี จัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวประจำชาติระดับสูงสุดที่ 5A (National AAAAA Tourist Attraction) เลยทีเดียว และยังเป็นหนึ่งในพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดในโลก สูงกว่าพระใหญ่เล่อซานในเสฉวนกว่า 17 เมตร พระใหญ่หลิงซานต้าฝอเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของเมืองอู๋ซี ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของทะเลสาบไท่หู ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้มีฉายาว่าหลิงซานน้อย ซึ่งมาจากพระซวนจาง พระที่มีชื่อเสียงในช่วงต้นราชวงศ์ถัง ผู้เชื่อมเอาความเป็นจีนและอินเดียเข้าไว้ด้วยกัน พระใหญ่หลิงซานต้าฝอเป็นพระศากยมุนีทองสัมฤทธ์สูง 88 เมตร มีฐานดอกบัวขนาด 9 เมตร โอบล้อมไปด้วยภูเขา 3 ลูก หันหน้าไปทางทะเลสาบไท่หู ใบหน้าขององค์พระมีลักษณะยิ้ม มองดูคล้ายคอยดูแลปกป้องประชาชนของท่าน การก่อสร้างพระใหญ่นั้นเป็นความคิดริเริ่มของ จ้าวผู่ชู อดีตประธานสมาคมพุทธศาสนาแห่งประเทศจีน กับไอเดียห้าพระพุทธรูปอันยิ่งใหญ่ในห้าทิศของจีนซึ่งมีอิทธิพลอย่างยิ่งในการพัฒนาพุทธศาสนาของจีนในปัจจุบัน นั่นก็คือเราสามารถชมพระใหญ่หลิงซานต้าฝอทางจีนตะวันออก พระใหญ่เทียนถาน ทางใต้ของจีนในฮ่องกง พระใหญ่เล่อซาน ทางตะวันตกของจีน พระ

บ้านดินถู่โหลวหนานจิ้ง (ประเทศจีน)

รูปภาพ
"บ้านดินถู่โหลวหนานจิ้ง" พบในบริเวณเทือกเขาทางตะวันตกเฉียงใต้ของมณฑลฝูเจี้ยน ติดกับทางกวางตง บริเวณตอนใต้ของประเทศจีน ถู่โหลว หรืออาคารดินเป็นสถาปัตยกรรมแบบฮากกาที่มีเอกลักษณ์และมีเสน่ห์ดูลึกลับน่าค้นหา เป็นอาคารที่มักล้อมรอบด้วยกำแพงดินโครงร่างสี่เหลี่ยมหรือวงกลมหนาประมาณ 182 เซนติเมตร เป็นโครงสร้างไม้ สูง 3-5 ชั้น ปัจจุบันมีกว่า 80 ครอบครัว มีทางเข้าเพียงแค่ 1 ทาง โดยมีประตูทำจากไม้หนา 4-5 นิ้วเสริมด้วยแผ่นเหล็กด้านนอก ด้านบนสุดของถู่โหลวนี้ มีรูปืนเอาไว้ใช้เพื่อป้องกันการโจรกรรม ความมหัศจรรย์เกี่ยวกับถู่โหลวนี้คือบางส่วนของกำแพงดินที่ล้อมรอบอยู่มีอายุมากถึง 700 ปี! เรียกว่าอยู่รอดปลอดภัยผ่านภัยธรรมชาติรวมถึงแผ่นดินไหวกันมาแล้ว ปัจจุบันมีถู่โหลวมากกว่า 20,000 หลังที่พบในทางใต้ของประเทศจีน ช่วงปลายรัชสมัยซ่ง ชาวฮั่นเริ่มตั้งถิ่นฐานและสร้างถู่โหลว จนกลายมาเป็นสัญลักษณ์สามัญมากๆ ที่เจอได้ในหนานจิง ถู่โหลวในหนานจิงนั้นพบมากในเมืองซูหยาง เหมยหลิน ฉวันฉ่างหนานเคิง คุ่ยหยาง และเห๋อซี ซึ่งเชื่อมต่อกันตลอดแม่น้ำจิ่วหลง มรดกถู่โหลวนี้แสดงถึงความเลอค่าทางศิลปะประเ

เทือกเขาหวงซาน (ประเทศจีน)

รูปภาพ
"เทือกเขาหวงซาน" (The Yellow Mountains) หรือภูเขาเหลือง ตั้งอยู่ในมณฑลอันฮุย ทางตะวันออกของจีนเป็น 1 ใน 10 จุดชมวิวที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศจีน ได้รับเลือกให้เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกๆ ของประเทศจีน ได้รับยกย่องให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมและธรรมชาติ และได้รับเลือกเป็นอุทยานทางธรณีวิทยาระดับโลกอีกด้วย ความเด็ดอยู่ที่ 4 สิ่งมหัศจรรย์ได้แก่ ต้นสนแข็งแรงสีเขียวชอุ่ม หินรูปร่างประหลาดซึ่งมักจะมีชื่อเรียกของตัวเองอีกด้วย เช่น พระกินแตงโม ทะเลหมอก และบ่อน้ำพุร้อนใสเหมือนแก้ว ซึ่งทั้งหมดที่ว่ามาทำให้ที่นี่ปังสุดๆ เริ่มที่ยอดแสงสว่าง (Bright Summit Peak) ด้วยความสูง กว้างและสามารถมองเห็นรังสีดวงอาทิตย์ได้ชัดแจ๋วจึงถูกเรียกแบบนี้ ตรงจุดนี้มีลักษณะแบบที่ราบบนเทือกเขาหวงซาน ทำให้สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและดูทะเลหมอกไปด้วยได้ วิวที่เห็นไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเลิศเลอเพอร์เฟคสุดๆ จัดเป็นจุดที่สูงเป็นอันดับสองบนเทือกเขาแห่งนี้เลยทีเดียวตั้งอยู่ตอนกลางของเทือกเขาประมาณ 1,860 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล และเป็น 1 ใน 3 ยอดสูงหลักๆ ของเทือกเขาหวงซานเลย หลังจากยืนนิ่งๆ ดื่มด่ำบรรยากาศสุดแสนโรแมนต

เดอะบันด์ หรือหาดไว่ทาน (ประเทศจีน)

รูปภาพ
"เดอะบันด์ หรือหาดไว่ทาน" (Waitan) จัดว่าเป็นไฮไลท์สำคัญในการมาเยือนเซี่ยงไฮ้เลยก็ว่าได้ มีชื่อเป็นหาดก็จริง แต่ที่นี่ไม่ใช่ชายทะเล เป็นทางเดินเลียบแม่น้ำแสนโรแมนติก มีความยาวประมาณ 1.5 กิโลเมตร รอบๆ เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปอันงดงาม และอาคารบ้านเรือนเก่าแก่กว่าร้อยปี ที่ยังคงอนุรักษ์ไว้อย่างดีเยี่ยมมากๆ จึงได้ฉายาว่าเป็นปารีสแห่งตะวันออก ที่ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็สวยไปหมด ตึกนั้นก็งาม ตึกนี้ก็เลิศ  นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์กลางทางการเมือง เศรษฐกิจและวัฒนธรรมของเซี่ยงไฮ้ เป็นที่ตั้งของสถานทูตแต่ละประเทศ ธนาคาร โรงแรม สำนักหนังสือพิมพ์ และบริษัทใหญ่ๆ รวมถึงร้านอาหารภัตตาคารหรูหราและสินค้าแบรนด์เนมมากมาย และที่นี่ยังใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์อันโด่งดังเรื่องเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้อีกด้วย จึงเป็นที่รู้จักกันในชื่อหาดเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้นั่นเอง พอเริ่มค่ำก็จะมีการเปิดไฟตามตึกต่างๆ แสงไฟสะท้อนไปทั่ว บวกกับวิวของแม่น้ำ ขอบอกว่าสวยมาก ถือเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดของเซี่ยงไฮ้ ใครไม่ได้มาที่นี่ถือว่าพลาดมาก!

นาขั้นบันไดหลงจี๋ (ประเทศจีน)

รูปภาพ
"นาขั้นบันไดหลงจี๋" อีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่มีทิวทัศน์สุดแปลกตา เรียกว่าสวยอันซีนแห่งหนึ่งของจีนหรืออาจจะของโลกเลยก็ว่าได้ ความงามจะท็อปอัพไปอีกเมื่อแสงแดดสะท้อนบนผืนน้ำของนาข้าว และจะยิ่งสวยยกกำลังขึ้นอีกเมื่อรวงข้าวเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองในฤดูกาลเก็บเกี่ยว หลงจี๋หรือที่แปลว่าหลังมังกรนั้นสวย จนทำให้ลืมภาพนาข้าวในแบบเดิมๆ ที่เคยรู้จักไปเลยจริงๆ ที่นี่ตั้งอยู่ที่เขตปกครองหลงเสิ้ง (Longsheng County) เมืองกุ้ยหลิน (Guilin) มณฑลกว่างซี (Guangxi Province) ห่างจากเมืองกุ้ยหลินประมาณ 95 กิโลเมตร ขับรถประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง นาขั้นบันไดหลงจี๋อยู่บนเนินเขามีเนื้อที่ประมาณ 66 ตารางกิโลเมตร ดูไปดูมาก็คล้ายๆ กับแถบผ้าที่ขดไปมามีลักษณะเป็นชั้นๆ ดูแปลกตาแต่ก็น่าหลงใหล งานดีฟีลกู๊ดดแบบนี้ต้องปรบมือรัวๆ ให้กับวิธีชลประทานที่ชาญฉลาดของจีน ทำให้เกิดการใช้พื้นที่เพาะปลูก และทรัพยากรน้ำที่หาได้ยากในพื้นที่ภูเขาได้ดีเยี่ยมเต็มที่นั่นเอง หากมาถึงแล้วไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดเลยได้แก่ พระจันทร์และดวงดาวทั้งเจ็ด (Severn Stars Accompany the Moon) เป็นกองหินเจ็ดก้อนที่หลงเหลือไว้จากการพ

แม่น้ำหลีเจียง (ประเทศจีน)

รูปภาพ
"แม่น้ำหลีเจียง" (Li River) ตั้งอยู่ในเมืองกุ้ยหลิน เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง (Guangxi Zhuang) เป็นอีกหนึ่งอัญมณีท่องเที่ยวยอดนิยมของจีน เป็นไฮไลท์สำหรับการมาเยือนเมืองกุ้ยหลินเลยทีเดียว ช่วงที่งามที่สุดของแม่น้ำหลีเจียงคือบริเวณลำน้ำระยะทางกว่า 83 กิโลเมตรจากเมืองกุ้ยหลินไปถึงเมืองหยางซัว (Yangshuo) จะเต็มไปด้วยรอยคลื่น หน้าผาสูงชัน ถ้ำที่มีความงามอย่างน่ามหัศจรรย์ เรือล่องแม่น้ำ และแพเรือทำด้วยไม้ไผ่ บรรยากาศเบาสบาย ผ่อนคลายสุดๆ นี่แหล่ะสวรรค์ของจริง แม่น้ำหลีเจียงสามารถแบ่งออกตามลักษณะภูมิทัศน์ที่แตกต่างกันได้เป็น 3 ส่วนได้แก่ ช่วงกุ้ยหลินไปจนถึงช่องแคบออกซ์ (Ox Gorge) ทางชายฝั่งตะวันตกของแม่น้ำหลีเจียง ช่วงช่องแคบออกซ์ถึงหมู่บ้านน้ำหยด (Water-Dropping Village) และช่วงหมู่บ้านน้ำหยดถึงเมืองหยางซัว ซึ่งแต่ละส่วนก็จะมีวิวและสถานที่สวยงามชวนให้หลงใหล เพลินเพลิน ดีต่อใจได้ตลอดทางจริงๆ แม่น้ำหลีเจียงขึ้นชื่อในเรื่องความงามเป็นเอกลักษณ์ ตลอดทางที่แล่นผ่านแม่น้ำสายนี้สวยราวกับภาพวาดในแกลลอรี่ ภาพน้ำตกจากผาสูงเขียวขจี หินผาที่ดูมีเสน่ห์ เนินเขาทับซ้อนกันไปมา แ

ช่องแคบซานเสียแห่งลุ่มแม่น้ำแยงซีเกียง (ประเทศจีน)

รูปภาพ
"ช่องแคบซานเสียแห่งลุ่มแม่น้ำแยงซีเกียง" ที่นี่มีทัศนียภาพทางภูมิศาสตร์ที่สวยงามจนแทบลืมหายใจ โด่งดังติดหนึ่งในสิบของจีนเลยทีเดียว ประกอบไปด้วยช่องแคบชวีถัง ช่องแคบอู ช่องแคบซีหลิง ยาวรวมกว่า 310 กิโลเมตรกันเลย โดยเริ่มที่เมืองไป๋ตี้ของมหานครฉงชิ่งทางตะวันตกของจีนไปจบที่หนานจินพาสที่เมืองอี๋ชาง มณฑลหูเป่ยทางตะวันออกของจีนนั่นเองยาวจริงอะไรจริงนะเนี่ย!! ที่นี่สวยงามเข้าตาสำนักงานการท่องเที่ยวประเทศจีน (China National Tourism Administration) เข้าอย่างจังจนถูกจัดอันดับให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับ 5A (AAAAA Scenic Area) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเลย การล่องเรือในแม่น้ำแยงซีเกียงผ่านช่องแคบซานเสีย ไม่เพียงแต่จะได้เพลิดเพลินกับวิวหินผาแปลกตา ภูเขาโดดเด่นสูงตระหง่านไปตลอดทางที่เรือแล่นผ่านแล้ว แต่ยังจะได้ดื่มด่ำกับบทกวีที่จารึกบนโขดหินโดยนักปราชญ์สมัยโบราณอีกด้วย งานนี้เรียกได้ว่าครบรสเลยหละกับความงามที่หลากหลาย และไร้ขอบเขตของธรรมชาติ ทั้งสวยสง่างามแบบช่องแคบชวีถัง และช่องแคบอู สวยอันตรายแบบช่องแคบซีหลิง หรือสวยแบบฉบับดั้งเดิมเรียบง่าย แต่ดูลึกลับน่าค้นหาของแม่น้ำต้าหน

ย่าติง (ประเทศจีน)

รูปภาพ
"ย่าติง" เป็นพื้นที่ชนบทในเขตเต้าเฉิง ในเขตปกครองตนเองทิเบตกานจือ ในมณฑลเสฉวน จัดเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงนิเวศวิทยาหลักของเมืองแชงกรีลากันเลยทีเดียว ย่าติงเป็นเมืองเล็กๆ ทางตะวันออกของที่ราบสูงชิงไห่ – ทิเบต อยู่ตอนกลางของภูเขาเหิงต้วน สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 3,700 เมตร วิวที่นี่เหมือนสวรรค์ดีดีนี่เอง ทะเลสาบใสกิ๊ง ทิวเขาสวยยย เต็มไปด้วยทุ่งหญ้าสุดลูกหูลูกตา ต้นไม้พลิ้วไหว แล้วยังสุดยอดบ่อน้ำพุร้อนอีก ไม่แปลกใจว่าที่นี่ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีเยี่ยม และเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของจีน ด้วยความมหัศจรรย์ของภูมิประเทศแบบที่ราบสูงอันสวยบริสุทธ์ จึงได้ฉายา ดินแดนบริสุทธิ์แห่งสุดท้ายบนโลก (The Last Pure Land on Earth) แชงกรีลาแห่งใหม่ (The Last Shangri-La) และดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภายใต้ดวงอาทิตย์ (The Holy Land in The Sun) จุดชมวิวเด็ดๆ ก็มีหลายที่ อย่างเช่น ภูเขาเอ่อชู (Echu Mountain) ได้ชื่อว่าเป็นพาเลทสีของจิตรกรปิกัสโซ่ (Picasso’s Color Pallet) กันเลยทีเดียว ในฤดูใบไม้ร่วงที่นี่รวมทั้งป่ารอบๆ

ภูเขาเทียนจื่อ (ประเทศจีน)

รูปภาพ
"ภูเขาเทียนจื่อ" ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองอู่หลิงหยวน ในมณฑลหูหนาน จุดสูงสุดอยู่ที่ 1,262 เมตร มีพื้นที่ทั้งหมด 67 ตารางกิโลเมตร ภูเขาเทียนจื่อ หรือที่แปลว่า บุตรแห่งสวรรค์ เป็นภูเขาที่ได้รับการอนุรักษ์และจัดเป็น 1 ใน 4 จุดชมวิวของอู่หลิงหยวน โดยที่เหลืออีก 3 ที่ได้แก่ อุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย หุบเขาสั่วซี และหยางเจียเจี้ยนั่นเอง เป็นที่รู้จักอีกชื่อว่า กษัตริย์แห่งยอดป่าสูง (Monarch of the Peak Forest) พออยู่บนยอดเขาจะสามารถมองเห็นเขตพื้นที่ท่องเที่ยวของอู่หลิงหยวนได้เต็มๆ แบบพาโนรามา วิวงามมากๆ บนนี้สามารถสัมผัสได้ทั้งทะเลหมอกยามเช้า แสงแดดแสนอบอุ่น หากตอนค่ำก็จะเห็นแสงละมุนของพระจันทร์ และวิวหิมะงามจนต้องตะลึงในหน้าหนาว ที่มาที่ไปของความงามตามธรรมชาติของภูเขาเทียนจื่อคือการทับถมของหินตะกอนมากว่า 318 ล้านปี!! เกิดหินที่ถูกกัดกร่อนจากทั้งน้ำและสายลมค่อยๆ กลายเป็นหินควอตซ์ที่มียอดสูงสวยละลานตา ความงามย่อมมาพร้อมกับตำนาน ว่ากันว่าชื่อภูเขานี้มาจากคนที่ชื่อว่า เซี้ยงต้าคุน (Xiang Dakun) เป็นผู้นำของชนกลุ่มน้อยถู่ (Tu ethnic Group) ในช่วงปลายรัชสมัยซ่งทาง