บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก กรกฎาคม, 2019

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ (จังหวัดพังงา)

รูปภาพ
"อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์" ตั้งชื่อตามพระยาสุรินทราชา (นกยูง วิเศษกุล) เทศาภิบาลมณฑลภูเก็ต ผู้ค้นพบเกาะ เป็นอุทยานแห่งชาติที่ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดพังงา มีลักษณะเป็นหมู่เกาะในทะเลอันดามัน เป็นหมู่เกาะแรกแห่งน่านน้ำทะเลอันดามันของไทยที่ไม่อยู่ติดกับชายทะเลฝั่งไทย อยู่ติดกับชายแดนไทย–พม่า ทางเหนือติดกับหมู่เกาะคริสตีของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา หมู่เกาะสุรินทร์มีพื้นที่ประมาณ 84375 ไร่ ร้อยละ 76 ของพื้นที่เป็นทะเล อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ โดดเด่นในเรื่องของความสวยงามใต้ทะเล ไม่ว่าจะเป็นปะการังนานาชนิ ทั้งปะการังผักกาด ปะการังสมอง ปะการังเขากวาง ปะการังอ่อน ดอกไม้ทะเล และ กัลปังหา ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีปลาทะเลที่สวยงามมากมาย เช่น ปลานกแก้ว ปลานกขุนทอง ปลาสินสมุทรปลา ผีเสื้อ ปลาสิงโต เป็นต้น ปละยังพบสัตว์น้ำทะเลที่หายาก เช่น เต่าทะเล ฉลามวาฬ ปลากระเบนราหู กุ้งมังกร

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน (จังหวัดพังงา)

รูปภาพ
"อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน" ตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลเกาะพระทอง อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา (ที่ทำการอุทยานตั้งอยู่ที่ตำบลลำแก่น อำเภอท้ายเหมือง) ครอบคลุมพื้นที่ 80,000 ไร่ หรือ 128 ตารางกิโลเมตร ประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อ 1 กันยายน พ.ศ. 2525 คำว่า สิมิลัน เป็นภาษามลายูแปลว่า เก้า หมู่เกาะสิมิลันเป็นหมู่เกาะเล็ก ๆ ในทะเลอันดามัน มี 9 เกาะ เรียงจากเหนือมาใต้คือ เกาะหูยง เกาะปายัง เกาะปาหยัน เกาะเมี่ยง เกาะปายู เกาะหัวกะโหลก เกาะสิมิลัน และเกาะบางู หมู่เกาะสิมิลัน ได้รับการยกย่องว่าเป็นหมู่เกาะที่มีความสวยงามทั้งบนบกและใต้น้ำ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน เป็นแนวปะการังน้ำลึกมีความหลากหลายของชนิดปะการังมาก เช่น ปะการังเขากวาง แปรงล้างขวด และปะการัง Seriatopora histrix พบเป็นชนิดเด่นในขณะที่หมู่เกาะอื่น ไม่พบปะการังในกลุ่มนี้เลย (ยกเว้นหมู่เกาะสุรินทร์) บริเวณที่มีแนวปะการัง ได้แก่ เกาะบอน เกาะบางู เกาะสิมิลัน เกาะปายเกาะเมียง เกาะห้า เกาะปายังเกาะปาหยัน และเกาะหูยง นอกจากปะการังแล้ว ยังมี สิ่งมีชีวิตอื่นที่อาศัยรวมอยู่ในแนวปะการังอีกหลายชนิด ที่สามารถพบได้ทั่วไป

Cappadocia (ประเทศตุรกี)

รูปภาพ
"Cappadocia"  เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกของอานาโตเลีย ในบริเวณตอนกลางของประเทศตุรกี เป็นดินแดนที่มีความสำคัญและเป็นแหล่งอารยธรรมที่มีมาแต่โบราณ เนื่องจากตั้งอยู่ในภูมิภาคตั้งแต่ภูเขาทอรัสไปจนถึงบริเวณทะเลดำ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสายไหม เส้นทางค้าขายแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่ทอดยาวจากตุรกีไปจนประเทศ จีนนั่นเอง เป็นเมืองมรดกโลกอีกแห่งหนึ่งในตุรกี คำว่าคัปปาโดเกียมาจากภาษาเปอร์เซียว่า คัตปาตุกา  มีความหมายว่าดินแดนที่มีม้าแสนสวย ตั้งอยู่บนพื้นที่ที่เคยเป็นภูเขาไฟ ชื่อ เอร์จีเยส สูง 3,916 เมตร บนยอดเขามีหิมะปกคลุมตลอดปี สามารถมองเห็นทั้งทะเลดำและทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เมืองแห่งนี้เกิดจากการระเบิดถ่นลาวาปกคลุมพื้นที่หลายร้อยไมล์ ต่อมาเกิดพายุลมฝนกัดกร่อนชั้นลาวาเหล่านี้ทีละเล็กทีละน้อยจนกลายสภาพเป็นหุบเขา ร่องลึกแปรรูปพรรณสัณฐานเป็นเสาหิน กรวยหิน กำแพงถ้ำ เนื้อหาในหุบเขาแห่งนี้จะอ่อนนิ่ม จึงเหมาะในการแกะสลัก เจาะ ขุด เป็นห้อง เป็นคอกม้า เป็นบ้าน โบสถ์ ค่ายทหาร ที่พัก โรงอาหารของนักบวช ห้องบำเพ็ญเพียร ซึ่งเหมาะในการอยู่อาศัย อากาศเย็นสบายในฤดูร้อน อากาศอบอุ่นในฤดูหนาว

Himeji Castle (ประเทศญี่ปุ่น)

รูปภาพ
"Himeji Castle"  เป็น ปราสาทญี่ปุ่น  ตั้งอยู่ในเมือง ฮิเมจิ   จังหวัดเฮียวโงะ  เป็นสิ่งก่อสร้างที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งที่เหลือรอดมาจากการทิ้งระเบิดในช่วง สงครามโลกครั้งที่สอง และ แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ฮันชิง พ.ศ. 2538 ปราสาทฮิเมจิได้รับการยกย่องจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกและสมบัติประจำชาติญี่ปุ่นเมื่อเดือนธันวาคมปี  พ.ศ. 2536  ถือว่าเป็น 1 ใน 3 ปราสาทที่งดงามที่สุดในญี่ปุ่น โดยอีก 2 แห่งคือ  ปราสาทมัตสึโมโตะ  และ ปราสาทคูมาโมโตะ  และยังเป็นปราสาทที่มีผู้มาเยี่ยมชมมากที่สุดในญี่ปุ่น ชาวญี่ปุ่นนิยมเรียกในชื่อว่า "ปราสาทนกกระสาขาว" ในยุคสงครามที่มีทั้งการเผาและทำลายสิ่งปลูกสร้างสำคัญๆทั่วทั้งญี่ปุ่นนั้น เชื่อหรือไม่ว่าปราสาทฮิเมจิเป็นหนึ่งในไม่กี่แห่งที่รอดพ้นจากการถูกทำลายรูปแบบต่างๆมาได้ ขนาดแผ่นดินไหวปราสาทแห่งนี้ก็ยังไม่สะเทือน เนื่องจากปราสาทนี้ยังไม่เคยถูกทำลายมาก่อนทำให้ยังคงรูปแบบดั้งเดิมของตัวปราสาทเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์ ยิ่งมาภายหลังมีการบูรณะปรับปรุงปราสาทยิ่งทำให้ปราสาทฮิเมจิยิ่งกลายเป็นสถานที่ที่ทั้งงดงามและทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์แบบมากถึงมากที่สุดกัน

Petra (ประเทศจอร์แดน)

รูปภาพ
"Petra"   คือนครหินแกะสลักโบราณที่ซ่อนตัวอย่างลึกลับในหุบเขาวาดี มูซา หุบเขาที่ตั้งอยู่ระหว่างทะเลเดดซีกับอ่าวอะกาบาในประเทศจอร์แดน นครนี้แต่เดิมนั้นเป็นนครแห่งการค้าขนาดใหญ่ซึ่งต่อมาถูกละทิ้งเป็นเวลานานกว่า 700 ปี จนเมื่อโยฮัน ลูทวิช บวร์คฮาร์ท นักสำรวจชาวสวิส เดินทางผ่านมาพบเห็นเข้าเมื่อปี พ.ศ. 2355(ค.ศ. 1812) นครเปตราได้รับลงทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี พ.ศ. 2528 โดยกล่าวอธิบายไว้ว่า "เป็นหนึ่งในสิ่งที่ล้ำค่ามากที่สุดของมรดกทางวัฒนธรรมแห่งมวลมนุษยชาติ" เมือง เพตรา  นครศิลาสีกุหลาบ  เมืองที่ถูกลืมเลือนไปจากความทรงจำของผู้คนและสูญหายไปจากแผนที่นานนับพันปี ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางอ้อมกอดของขุนเขาที่สูงชันประดุจเป็นปราการอันยิ่งใหญ่

Valley of Flowers (ประเทศอินเดีย)

รูปภาพ
"Valley of Flowers"    ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเทือกเขาหิมาลัย ในรัฐ  Uttarakhand  ของประเทศอินเดียบนความสูง 3,650 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล กินอาณาบริเวณกว่า 87 ตารางกิโลเมตร บนนี้จะพบดอกไม้นานาพันธุ์ที่ทั้งสวยงาม และหายากในแถบภูมิภาคอื่นกว่า 520 ชนิด รวมถึงมีสรรพคุณทางยาด้วย โดยปกติดอกไม้จะบานสะพรั่งละลานตาในช่วงเดือนมิถุนายน ไปจนถึงต้นกันยายน  หุบเขาดอกไม้  ถูกค้นพบโดย Frank Smith นักพฤกษศาสตร์และนักสำรวจที่เดินทางมาพบหุบเขาแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจในปี 1931 ในครั้งแรกที่พบเขาถึงกับตกตะลึงไปกับความงดงามของดอกไม้ที่มีความแตกต่างกันมากกว่า 500 สายพันธุ์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นดอกไม้ป่าและพืชสมุนไพรที่แผ่กระจายไปทั่วพื้นที่ 87.5 ตารางกิโลเมตร

Zhangye Danxia, Gansu (ประเทศจีน)

รูปภาพ
"Zhangye Danxia, Gansu" ภูเขาสีรุ้งตันเซีย สีสันมรดกโลกแห่งจีน ถึงที่นี่ จะไม่ใช่ภูเขาที่อุดมไปด้วยต้นไม้เขียวขจี เหมือนกับภูเขาที่เราเคยเห็น ๆ กันแถวบ้านเรา แต่ทว่าภูเขาแห่งนี้ ถึงจะโล้นและแห้งแล้ง ก็ไม่ได้ทำให้สถานที่แห่งนี้ สิ้นความงามลงไปเลยแม้แต่น้อย เพราะที่นี่ถูกแต่งแต้มไปด้วยสีสันจากธรรมชาติ ซึ่งมันทำให้ดูน่าอัศจรรย์ใจมาก สำหรับคนที่ได้มาพบเจอ อุทยานธรณีวิทยาแห่งชาติแห่งนี้ ได้ถูกยกให้เป็นมรดกโลก จาก UNESCO ในปี 2010 และถูกตั้ง ให้เป็นอุทยานธรณีวิทยาแห่งชาติเมื่อปี 2011อีกด้วย สีสันที่เราเห็นในปัจจุบันเกิดจากน้ำใต้ดินที่ตกตะกอนเคลื่อนที่ผ่านธัญพืช หินทราย และแร่ธาตุที่แทรกระหว่างธัญพืช การตกตะกอนนี้ทำให้ธัญพืชยึดติดกันไว้ได้ กระบวนการนี้แร่ธาตุได้ช่วยในการระบายสีของหินทรายทั่วโลกสีหลักคือหินทรายสีแดงเข้ม สีแดงเป็นผลมาจากการเคลือบด้วยเหล็กออกไซด์และการยึดเกาะ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นแร่เหล็กออกไซด์ (Fe2O3) ระหว่างเม็ดหินทราย นี่เป็นกระบวนการเดียวกับที่เกิดขึ้นเมื่อชิ้นส่วนโลหะถูกทิ้งไว้ในสายฝนและเป็นสนิมสีแดงสนิมรอบด้าน

Salar De Uyuni (ประเทศโบลิเวีย)

รูปภาพ
"Salar De Uyuni" เป็นที่ราบเกลือที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีพื้นที่ 10,582 ตารางกิโลเมตร (4,086 ตารางไมล์) ตั้งอยู่ใน จังหวัด Daniel Campos ใน Potosí ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศโบลิเวีย ใกล้ยอดเขา Andes และอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 3,656 เมตร (11,995 ฟุต) ด้วยมนตร์เสน่ห์ของผลึกเกลือสีขาวอันกว้างใหญ่ ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 10,582 ตารางกิโลเมตร ทำให้ ซาลาร์ เดอ อูยูนี กลายมาเป็นสถานที่ในฝันของนักท่องเที่ยวผู้ชื่นชอบแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติจากทั่วทุกมุมโลกที่เดินทางมาเยี่ยมเยือนอย่างไม่ขาด ไม่ว่าจะในช่วงฤดูแล้งหรือฤดูฝน เพราะไม่ว่าจะในช่วงเวลาใดทะเลเกลือที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้ก็ยังคงมีความงดงามชวนให้หลงใหลได้เสมอ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่งดงามที่สุด เมื่อมีฝนตกจนเกิดผืนน้ำปกคลุมผลึกเกลือ เราจะได้พบกับภาพการสะท้อนอย่างสมบูรณ์แบบระหว่างทิวทัศน์ที่เห็นอยู่เบื้องหน้ากับภาพสะท้อนจากผืนน้ำ จนเกิดเป็นคำกล่าวที่ว่า "ผืนฟ้าจรดผืนโลก ปัจจุบันประมาณการว่ามีเกลืออยู่กว่า 10,000 ล้านตัน โดยแต่ละปี โบลิเวียผลิตเกลือจากบริเวณนี้ได้ถึง 25,000 ตัน ส่วนความลึกของทะเลเกลือนั้น น

Tunnel of Love (ประเทศยูเครน)

รูปภาพ
"Tunnel of Love " ทางรถไฟสุดมหัศจรรย์ ปกคลุมด้วย อุโมงค์ต้นไม้ สุดร่มรื่นแห่งนี้ เกิดจากการรังสรรค์ของธรรมชาติ ต้นไม้สองข้างทางโอบล้อมเข้าหากัน สร้างร่มเงาตลอดเส้นทาง ได้รับการขนานนามว่าเป็น อุโมงค์แห่งรัก กลายเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวอันดึงดูดใจ แม้จะอยู่ในเมืองเล็กๆ อย่าง Kleven ประเทศยูเครน สถานที่ท่องเที่ยวในฝันที่ใครหลายคนต่างถวิลหา และอยากเดินทางไปเห็นตัวตาตัวเองสักครั้ง อุโมงค์แห่งความรักนี้มีลักษณะเป็นอุโมงค์ต้นไม้ ปกคลุมเส้นทางรถไฟที่ทอดตัวเป็นทางยาว ทำให้มีผู้คนจากทั่วโลกให้ความสนใจอยู่ไม่น้อย เชื่อแน่ว่าหลายคนน่าจะเคยเห็นหน้าตาอุโมงค์แห่งความรักนี้มาบ้างแล้ว แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ถึงที่มาที่ไป แถมว่ากันว่าเป็นอุโมงค์รถไฟที่โรแมนติกที่สุดในโลกอีกด้วย ในอดีตที่นี่ถูกใช้เป็นเส้นทางขนส่งสินค้าจากโรงงานไม้อัดแห่งหนึ่ง ปัจจุบัน กลายเป็นเส้นทางรถไฟสายโรแมนติกที่สุดในโลก จนได้รับการขนานนามว่า อุโมงค์แห่งความรัก หรือ Tunnel of Love ที่สำคัญ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ แม้จะอยู่ในเมืองเล็กๆ ซึ่งในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวมาเยือนเป็นจำนวนมาก

Trolltunga in Hordaland (ประเทศนอร์เวย์)

รูปภาพ
"Trolltunga in Hordaland" เป็นรูปแบบหินตั้งอยู่เหนือระดับน้ำทะเลประมาณ 1,100 เมตรในเขตเทศบาล Odda ใน Hordaland County ประเทศนอร์เวย์ Trolltunga กลายเป็นสัญลักษณ์ประจำชาติและเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญสำหรับภูมิภาค จนถึงปี 2010 มีคนเดินทางไป Trolltunga น้อยกว่า 800 คนในแต่ละปี ในปี 2559 มีคนเพิ่มขึ้น 80,000 คน ระยะทาง 27 กิโลเมตรจาก Skjeggedal ทำให้เป็นหนึ่งในเส้นทาง ดินป่ายอดนิยมที่สุดของนอร์เวย์ Trolltunga เป็นภาษานอร์เวย์ แปลว่า “ลิ้นของโทรลล์” ตามลักษณะที่เป็นแผ่นหินบางชี้ยื่นออกมาจากผา ที่ความสูง 2,300 ฟุต (700 เมตร) เหนือทะเลสาบRingedalsvatnet ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Sørfjorden Fjord ในเมือง Odda มณฑล Hardanger ทางตะวันตกของประเทศนอร์เวย์ บนยอดผา นักเดินทางจะได้ชื่นชมทิวทัศน์ของภูมิประเทศแบบเฉพาะที่เรียกกันว่า ฟยอร์ด (Fjord) ซึ่งมีลักษณะเป็นหุบเขาเว้าแหว่งบริเวณปากอ่าว ที่เกิดจากการกัดเซาะของธารน้ำแข็งตั้งแต่ยุคน้ำแข็งครั้งสุดท้ายเมื่อกว่าหมื่นปีก่อน

Angkor Wat (ประเทศกัมพูชา)

รูปภาพ
"Angkor Wat" เป็นหมู่ปราสาทในประเทศกัมพูชาและเป็นศาสนสถานที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยพื้นที่รวมกว่า 162.6 เฮกเตอร์ (1.6 ล้านตารางเมตร ซึ่งเท่ากับ 402 เอเคอร์) แรกเริ่มนั้นสร้างขึ้นเป็นเทวลัยในศาสนาฮินดูเพื่ออุทิศแด่พระวิษณุ ก่อนจะค่อยๆเปลี่ยนแปลงกลายเป็นวัดในศาสนาพุทธในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 12 นครวัดสร้างขึ้นในช่วงต้นของคริสศตวรรษที่ 12 โดยพระเจ้าสูรยวรรมันที่ แห่งเมืองยโสธรปุระ (ในปัจจุบันคือเมืองพระนคร) ปราสาทนครวัดได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี จนเป็นศูนย์กลางทางศาสนาที่สำคัญเพียงแห่งเดียวที่ยังเหลือรอดมาจนถึงปัจจุบัน และได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของประเทศกัมพูชา โดยปรากฏในธงชาติ และเป็นจุดท่องเที่ยวหลักของประเทศ ที่มีนักท่องเที่ยวกัมพูชา แห่เข้ามาชมปราสาทหินนครวัด-นครธม กันอย่างคับคั่ง มีคนเดินเข้าออกตั้งแต่เช้าถึงเย็น อย่างไม่ขาดสาย

Zermatt (ประเทศสวิตเซอร์แลนด์)

รูปภาพ
"Zermatt" เป็นเมืองชนบทเล็กๆ ที่สวยงาม ล้อมรอบด้วยภูเขา ตั้งอยู่บนเทือกเขาแอลป์ในรัฐวาเล ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่นี่เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีความปลอดภัยสูงมาก แถมยังมีชื่อเสียงด้านการปีนเขาและเป็นที่ตั้งของสกีรีสอร์ทที่ใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ มาตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 ซึ่งทุกๆ ปีมีนักท่องเที่ยวเดินทางมา เที่ยวเซอร์แมท และเล่นสกีกันเยอะมากๆ โดยที่นี่จะมีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาชมความงามและความโอฬารนี้ไม่เว้นแต่ละวัน แต่เป็นยอดเขาในเทือกเขาแอลป์ยอดสุดท้ายที่จะถูกนักปีนเขาปีนน เพราะต้องใช้เทคนิคอย่างมาก จะต้องเจอกับความลำบากยุ่งยาก หินที่ลื่น และมีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี แต่ถึงยังไงสำหรับนักปีนเขาที่ใจกล้าก็ไม่กลัวอยู่แล้ว ยิ่งยากยิ่งท้าทาย

Mount Ai-Petry, Crimea (ประเทศยูเครน)

รูปภาพ
"Mount Ai-Petry, Crimea" เป็นยอดเขาสูงที่ตั้งอยู่ภายในอาณาเขตภูเขาทั้งหมดของ Crimean ในประเทศยูเครน ปัจจุบันความสวยงามของ Mount Ai-Petry กำลังเป็นที่สนใจของหมู่นักท่องเที่ยวผจญภัยที่ขึ้นชื่อในเรื่องความสวยงามปนความหวาดเสียว และมีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนไม่น้อยไปพิสูจน์กันมาบ้างแล้ว โดยเฉพาะอย่างการนั่งกระเช้าเคเบิลเพื่อความชมความงดงามของวิวทิวทัศน์โดยรอบของ Mount Ai-Petry เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่อง เที่ยวที่ต้องบอกว่าสวยไม่ได้แพ้ที่ใดเลย ซึ่งสถานที่ที่แห่งนี้นั้นน้อยคนนักที่จะมาถึง เพราะเป็นสถานที่ที่ผู้ที่จะขึ้นมาชมนั้น ต้องมีความมุ่งมั่นและมีความกล้าเป็นอย่างมาก มีความท้าทาย และที่สำคัญที่สุดคือ ไม่กลัวความสูง เพราะสถานที่แห่งนี้ เป็นสถานที่ดูแล้วค่อยข้างที่จะอันตรายมาก แต่ถ้าขึ้นมาถึง ก็เป็นอะไรที่คุ้มค่าเป็นอย่างมากเลยทีเดียว เพราะสถานที่แห่งนี้ เป็นภูเขาที่มีชื่อว่า Mount Ai-Petry Crime ซึ่งอยู่ในประเทศยูเครน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความเสียวอยู่ในระดับต้นๆของโลก

Melissani Cave, Kefalonia (ประเทศกรีซ)

รูปภาพ
"Melissani Cave, Kefalonia" เป็นถ้ำที่ตั้งอยู่บนเกาะ Kefalonia ประเทศกรีซ ถ้ำแห่งนี้ได้สำรวจพบในปี 1951 มีการขุดพบวัตถุโบราณหลายชิ้นด้วยกัน ภายในถ้ำมีทะเลสาบน้ำกร่อยอยู่เข้าไปลึกกว่า 500 เมตรจากทะเล เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอีกที่หนึ่ง นักท่องเที่ยวจะล่องเรือไปตามเส้นทางเพื่อชมธรรมชาติที่สวยงามของน้ำที่ใสราวกับกระจก ตามตำนานเทพเจ้ากรีกโบราณ เหล่านางไม้ที่อาศัยอยู่ในถ้ำที่งดงามนี้จะล่อลวงคนด้วยความงามของพวกเขา และถ้ำนี้ก็ได้ล่อลวงนักดำน้ำหลายคนในหลงเข้าไปในโลกที่เต็มไปด้วยความงามของธรรมชาติ ถ้ำเมลิสซานี คือถ้ำที่ตั้งอยู่บนเกาะเซฟาโล เนีย (Cephalonia) หรือ เกาะเคฟาลลีนีอา (Kefallinia) เกาะที่ใหญ่ที่สุดของหมู่เกาะ ไอโอเนียน (Ionian Islands) หมู่เกาะที่ตั้งอยู่ในทะเลไอโอเนียน นอกจากฝั่งตะวัน ตกของประเทศกรีซ โดยถ้ำแห่งนี้อยู่หาง จากเมืองอาร์โกสโต (Argostoli) เมืองหลวงของเกาะประมาณ 5 กิโลเมตร โดยตัวถ้ำนั้นถูกล้อมรอบไปด้วยต้นไม้และป่ารวมไปถึงภูเขา ลาดชัน แต่การเดินทางมายังถ้ำนั้นค่อนข้างสะดวกสบายมาก เนื่อง จากอยู่ใกล้ถนนสายหลักของเกาะและยังมีที่จอดรถเป็นจำนวน

St. Petersburg (ประเทศรัสเซีย)

รูปภาพ
"St. Petersburg" เป็นเมืองท่าทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของสหพันธรัฐรัสเซีย ตั้งอยู่ปากแม่น้ำเนวา ริมอ่าวฟินแลนด์ในทะเลบอลติก เซนต์ปีเตอร์สเบิร์กสร้างโดยพระเจ้าซาร์ปีเตอร์มหาราช เมื่อ พ.ศ. 2246 โดยตัวเมืองเริ่มสร้างด้วยการถมทรายและหินเป็นจำนวนมากเพราะว่าพื้นที่เดิมของเมืองนั้นเป็นดินเลนของทะเล พระองค์ทรงเลือกที่จะสร้างเมืองที่บริเวณนี้เพราะว่าตัวเมืองมีทางออกทะเลบอลติกและสามารถติดต่อไปทางยุโรปและประเทศอื่นๆได้ง่าย เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เป็นเมืองหลวงเก่าของจักรวรรดิรัสเซีย และเป็นแหล่งร่วมอารยธรรมที่มนต์เสน่ห์ และสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ พูดง่าย ๆ เลยว่า คือไม่มาเมืองนี้ไม่ได้จริง ๆ และเป็นเมืองที่ต้องมาสักครั้งในชีวิต ตัดมอสโกออกไปได้เลย เพราะที่นี้มันอลังกว่ามาก

Lofoten Islands (ประเทศนอร์เวย์)

รูปภาพ
"Lofoten Islands" ตั้งอยู่เขตมณฑล NORDLAND ทางตะวันตกเฉียงเหนือ ของนอร์เวย์ ประกอบด้วยเกาะเล็กเกาะน้อยมากมายหลายเกาะ โดยมีเกาะ ใหญ่หลัก ๆ ได้แก่ AUSTVAGOYA, GIMSOYA, VESTVAGOYA, FLAKSTADOYA และ MOSKENESOYA เชื่อมต่อกันด้วยถนนสาย E10 ภูมิประเทศเป็น ภูเขา หินแกรนิตสูงตระหง่านสลับเรียงรายริมทะเล มีผืนน้ำสีฟ้าคราม หมู่เกาะโลโฟเทน มีทุกอย่างที่คุณต้องการในที่เดียวไม่ว่าจะเป็นทะเล หาดทราย หมู่บ้านประมงดั้งเดิม ภูเขา ทุ่งหญ้าสะวันน่า แสงเหนือ ฯลฯ และนี่คือไฮไลท์ที่เที่ยวที่ควรมาสัมผัสเมื่อมาเยือนหมู่เกาะที่สวยที่สุดในโลกแห่งนี้

Huacachina, Peruvian Desert (ประเทศเปรู)

รูปภาพ
"Huacachina, Peruvian Desert" เป็นหมู่บ้านเล็กที่อยู่ท่ามกลางทะเลทราย ถูกสร้างขึ้นมาเมื่อปี 1950 แถมอยู่ไม่ไกลจากเมือง Ica เมืองทางตอนใต้ของประเทศเปรู และถูกพัฒนาเป็นบ้านพักสำหรับครอบครัวท้องถิ่น และเป็นรีสอร์ทสำหรับนักท่องเที่ยว และบาร์ต่างๆ หมู่บ้านดังกล่าวกลายเป็นสถานที่พักผ่อนตากอากาศสำคัญในเขตแคว้น โดยนักท่องเที่ยวส่วนมากนิยมมาเล่นสกีทรายตามแนวระดับของเนินทรายความสูงหลายร้อยฟุต อย่างไรก็ตามหลังจากเจ้าของที่ดินใกล้กับหมู่บ้านแห่งนี้ได้ทำการขุดแหล่งน้ำใต้ดินขึ้นมาใช้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ระดับน้ำในโอเอซิสลดลงอย่างชัดเจน

Sagano Bamboo Forest (ประเทศญี่ปุ่น)

รูปภาพ
"Sagano Bamboo Forest" ป่าไผ่ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเกียวโต ทั้งทัศนียภาพที่สวย และแปลกตาของป่าไผ่ซากาโนะ ทำให้มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยียนที่นี่อย่างไม่ขาดสายค่ะ เราสามารถเดินชมป่าไผ่ตามทางเดินที่ได้จัดไว้ให้เป็นระยะทาง 500 เมตร ตลอดสองข้างทางเดินประกอบไปด้วยต้นไผ่สูงชะลูด และในระหว่างทางนักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินไปกับเสียงลำไผ่สีกันยามลมพัด นับเป็นเสียงธรรมชาติที่แสนไพเราะสุดจะบรรยายไปเลยทีเดียว สวนป่าไผ่ซากาโนะ ป็นหนึ่งไฮไลท์ของสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองเกียวโตเลยก็ว่าได้ และยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันซีนของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย ซึ่งนักท่องเที่ยวต่างมาเที่ยวกันเพื่อชมความงามของป่าไผ่ขนาดใหญ่ที่รายล้อมด้วยธรรมชาติอันงดงาม โดยป่าไผ่ซากาโนะนั้นตั้งอยู่ตรงบริเวณอาราชิยาม่า ของจังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น  ปัจจุบันรัฐบาลญี่ปุ่นได้ยกย่องให้ป่าไผ่ซากาโนะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีเสียงที่ไพเราะที่ควรจะมาสัมผัสให้ได้สักครั้ง สำหรับนักท่องเที่ยวที่มีโอกาสมาเที่ยวญี่ปุ่น ขอแนะนำว่าไม่ควร พลาดโอกาสไปสัมผัสอากาศแสนบริสุทธิ์และบรรยากาศที่แสนเงียบสงบของป่าไผ่ซากาโนะกันดู