บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก มิถุนายน, 2019

Chichen Itza (ประเทศเม็กซิโก)

รูปภาพ
"Chichen Itza" เป็นแหล่งโบราณคดีขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นโดยชาวมายาในเขตวัฒนธรรมมีโสอเมริกา ตั้งอยู่ในคาบสมุทรยูกาตัง รัฐยูกาตัง ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศเม็กซิโก ชิเชนอิตซาเป็นส่วนหนึ่งของเมืองจำนวนมากมายซึ่งพวกมายาได้สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ของเทพเจ้าผู้ทรงกระหายพระโลหิต ชนเผ่ามายาแห่งเม็กซิโกสืบสายมาจากคนพวกแรกที่เดินทางจากทวีปเอเชียเข้ามายังทวีปอเมริกาทางช่องแคบเบริง ได้มีการพัฒนาทางวัฒนธรรมทั้งในด้านเหี้ยมโหดอันป่าเถื่อนและความมีสติปัญญาอันสูงส่งในขณะเดียวกันพวกมายาฝึกความเสียสละด้านมนุษยชาติ ควักหัวใจผู้ที่รับการบูชาออกสังเวยพระเจ้า ขณะเดียวกันก็มีการพัฒนาความรู้ด้านดาราศาสตร์ ศิลปะของสถาปัตยกรรม ทางอักษรศาสตร์ ด้านการเขียนบันทึกด้วยตัวอักษรพิเศษ ชาวมายามีความสามารถทางดาราศาสตร์ สามารถทำนายเวลาเกิดสุริยุปราคาและจันทรุปราคาได้ล่วงหน้าเป็นเวลานาน รู้จักทำปฏิทินใช้ รู้จักประดิษฐ์เลขศูนย์ใช้ในวิชาคณิตศาสตร์ ปฏิทินของชาวมายาเป็นที่ยอมรับว่ามีความเที่ยงตรงอย่างมาก เพราะเป็นปฏิทินที่ทำขึ้นจากระบบดวงดาว โดยปฏิทินนี้ไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนอะไรเลยถึง 380,0

Great Barrier Reef (ประเทศออสเตรเลีย)

รูปภาพ
"Great Barrier Reef" เป็นพืดหินปะการังที่ยาวที่สุดในโลก ยาวกว่า 2,000 กิโลเมตร อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศออสเตรเลีย หรือตอนใต้ของทะเลคอรัล แนวปะการัง มีสิ่งชีวิตมากมาย ทั้งปะการังชนิดอ่อน และชนิดแข็ง สีสวยกว่า 350 ชนิด ตลอดจนปลา และสิ่งมีชีวิตในทะเลที่ต่าง ๆ อีก 1500 ชนิด จากความสมบูรณ์ของระบบนิเวศน์ทางทะเล ขนาดมหึมาที่เกิดขึ้น ทำให้ เกรท แบริเออร์ รีฟ ได้รับ การพิจารณาคัดเลือกจากองค์การ UNESCO ให้เป็นมรดก โลกทางธรรมชาติในปี พ.ศ. 2524 ขณะเดียวกันสถานี โทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นก็ได้กล่าวยกย่องให้ที่นี่เป็นหนึ่งในเจ็ด สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลก เหตุผลที่ทำให้ได้รับคัดเลือกเป็นมรดกโลกเป็นตัวอย่างที่เด่นชัดของการเป็นตัวแทนในวิวัฒนาการสำคัญต่างๆ ในอดีตของโลก เช่น ยุคสัตว์เลื้อยคลาน ยุคน้ำแข็ง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนาความหลากหลายทางธรรมชาติบนพื้นโลก เป็นตัวอย่างที่เด่นชัดในการเป็นตัวแทนของขบวนการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญทางธรณีวิทยาหรือวิวัฒนาการทางชีววิทยา และปฏิสัมพันธ์ของมนุษย์ต่อสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติที่กำลังเกิดอยู่ เช่น ภูเขาไฟ เกษตรกรรมขั้นบันได เป

Prague (สาธารณรัฐเช็ก)

รูปภาพ
"Prague" เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดในประเทศเช็กเกีย มีประชากรอาศัยประมาณ 1.2 ล้านคน เมื่อ ค.ศ. 1992 องค์การยูเนสโก ได้ประกาศให้ปรากเป็นมรดกโลก พื้นที่บริเวณกรุงปรากมีคนอาศัยตั้งแต่ 200 ปีก่อนคริสตกาล โดยช่วงแรกเป็นเผ่าเคลต์ (Celt) ก่อนจะถูกรุกรานโดยเผ่าเยอรมนิก (Germanic) และถูกครอบครองโดยเผ่าสลาฟในคริสต์ศตวรรษที่ 4 มหานครที่มีความสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ตั้งอยู่ทางตอนกลางของทวีปยุโรป ซึ่งกรุงปราก เป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญของสาธารณรัฐเช็กเลยก็ว่าได้ เพราะปรากเป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรม ที่เต็มไปด้วยปราสาทเก่าแก่ มีเสน่ห์ชวนหลงใหลเป็นอย่างมาก รวมทั้งยังเป็นหัวใจแห่งยุโรปอีกด้วย จัตุรัสเมืองเก่า ตั้งอยู่ใจกลางเมืองปราก เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่มีอายุมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 12 เคยเป็นย่านค้าขายที่คึกคักมาตั้งแต่โบราณ พบกับเสน่ห์แห่งการเที่ยวปรากได้ที่นี่ เนื่องจากสถาปัตยกรรมเมืองเก่าที่รายล้อมไปทุกทิศทาง ทั้งอาคารบ้านเรือน ร้านอาหารต่างๆ และพื้นหินขัดเงา ที่ยังคงเสน่ห์ของความเป็นท้องถิ่นปรากดั้งเดิม ราวกับได้ย้อนไปอยู่ในยุโรปเมื่อ 700 ปีก่อน

Atlantic Ocean Road (ประเทศนอร์เวย์)

รูปภาพ
"Atlantic Ocean Road" ตั้งอยู่ในประเทศนอร์เวย์ ถนนสายนี้มีความยาว 8.3 กิโลเมตร เป็นถนนที่เชื่อมระหว่างแผ่นดินใหญ่ และเกาะต่าง ๆ ในนอร์เวย์ มีสะพาน Storseisundet เป็นสะพานโค้งยาว 260 เมตร ถือเป็นสะพานสวยงามที่สุดในบรรดาสะพานทั้งหมด และยังได้รับฉายาว่า The road to nowhere เส้นทางนี้เริ่มก่อสร้างขึ้นเมื่อวันที่ 1 สิงหาคมปี 1983 ก่อนที่จะมีการเปิดใช้ครั้งแรกเมื่อปี 1989 ก่อนที่จะมีการเพิ่มทางเชื่อมต่อระหว่างเขต Kristiansund และ Molde ในปี 2009 สำหรับนักท่องเที่ยวที่หลงใหลความงดงามทั่วไปก็จะเพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์สองฟากฝั่งขนาบด้วยผืนน้ำสีครามเข้มของมหาสมุทร แอตแลนติกเป็นระยะทางเกือบ 10 กิโลเมตร มีสะพานข้ามเกาะทั้งหมด 7 สะพาน และมีจุดแวะพักทั้งหมด 4 จุด แถมด้วยการทำกิจกรรมหลากหลายทั้งการตกปลา ดำน้ำ กระจัดกระจายอยู่บนหมู่เกาะในเส้นทางสายนี้

ทะเลสาบสีฟ้า Moraine Lake (ประเทศแคนาดา)

รูปภาพ
"Moraine Lake" อยู่ในจังหวัด Alberta ประเทศแคนาดา เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติแบมฟ์ (Banff National Park) ในหุบเขา the Valley of the Ten Peaks ที่ระดับความสูงประมาณ 1,885 เมตร และมีพื้นที่ประมาณ 0.5 ตารางกิโลเมตร ลึกถึง 14 เมตร และยังอยู่ในระแวกเดียวกับทะเลสาบ Lake Louise อีกด้วย และน้ำสีฟ้าสวยนี้เกิดจากการหักเหของแสงและธารน้ำแข็ง ซึ่งน้ำของทะเลสาบจะสีสวยแบบนี้สุดๆในช่วงปลายเดือนมิถุนายน นอกจากนักท่องเที่ยวจะนิยมมาถ่ายรูปแล้ว ยังมีกิจกรรมที่ฮอตฮิตไม่แพ้กัน คือ การพายเรือแคนูในทะเลสาบ และการเดินป่า ที่ทางอุทยานได้ทำเส้นทางเดินรอบทะเลสาบไว้เป็นอย่างดี ดีไม่ดีอาจเดินๆ ไปเจอเจ้าหมีกริซลี่ก็ได้

Zhangjiajie (ประเทศจีน)

รูปภาพ
"Zhangjiajie" เป็นเมืองระดับจังหวัดในมณฑลหูหนาน ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งถูกจัดเป็นหนึ่งในมรดกโลกโดยยูเนสโก รวมไปถึงทิวทัศน์ระดับ AAAAA ซึ่งจัดโดย การท่องเที่ยวแห่งชาติจีนได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกธรรมชาติ ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของมณฑลหูหนาน สนุกตื่นเต้นกับ สะพานแก้วจางเจียเจี้ย มีความยาว 430 เมตร กว้าง 6 เมตร สูง 300 เมตร เชื่อมสองหน้าผา ได้ชื่อว่าเป็น สะพานแก้วที่ยาวที่สุดในโลก หน้าผาลอยฟ้า ถ้ำเทียนเหมินซานหรือ ถ้ำประตูสวรรค์ เป็น 1 ใน 4 ภูเขาที่สวยของจีน ชาวจางเจียเจี้ย ผู้ซึ่งรักในธรรมชาติ ได้ดำเนินนโยบายอนุรักษ์ธรรมชาติอย่างมีประสิทธิผล เมืองจางเจียเจี้ยจึงประดุจดั่งดินแดนบริสุทธิ์ของโลก ณ ที่แห่งนี้ยังเป็นแหล่งชุมชนของ 33 ชนเผ่า เช่น ชนเผ่าถู่เจีย ชนเผ่าไป๋ และชนเผ่าเหมียว สภาพภูมิศาสตร์ที่มีเอกลักษณ์ทำให้วัฒนธรรมของชนเผ่าต่างๆ ได้รับการอนุรักษ์เป็นอย่างดี หนึ่งในฉากสำคัญของเรื่อง อวตาร (Avatar) จากฝีมือผู้กำกับชื่อดังอย่าง เจมส์ คาเมรอน ก็คือภูเขาลอยฟ้าแห่งดาวแพนดอร่า ซึ่งมีแรงบันดาลใจมาจากอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย  ในมณฑลหูหนาน สาธา

Dunnottar Castle (ประเทศสกอตแลนด์)

รูปภาพ
"Dunnottar Castle" ณ ชายฝั่งทะเลตอนเหนือ ทางทิศใต้ของเมือง Stonehaven แห่งประเทศสก็อตแลนด์ ยังมีโบราณสถานที่สวยงามตั้งอยู่อย่างเปล่าเปลี่ยวหันหน้าเข้าสู่ทะเล ซึ่งเป็นปราสาทที่สวยงาม ตั้งอยู่ท่ามกลางทัศนียภาพตามธรรมชาติ และยังมีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนาน ก่อนที่จะกลายเป็นสิ่งปลูกสร้างเก่าแก่ที่มีคุณค่าของเมืองและควรค่าแก่การไปท่องเที่ยว ตั้งอยู่ในทำเลบนหน้าผาที่โดดเด่นบนแหลมหินในความสูง 49 เมตรเหนือผืนน้ำทะเลที่ปั่นป่วน บุคคลในตำนานตั้งแต่เจ้านายในราชวงศ์ไปจนถึงบุคคลมีชื่อเสียงในยุคปัจจุบัน ต่างเคยมาเยี่ยมเยือนปราสาทหลังนี้ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นป้อมปราการที่ไม่มีใครผ่านได้ โดยส่วนที่เก่าแก่ที่สุดมีอายุย้อนได้ถึงศตวรรษที่ 13 เดินท่องไปตามซากปรักหักพังของแหล่งสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ชวนให้ระลึกถึงเหตุการณ์ต่างๆ และชื่นชมทัศนียภาพตระการตาของท้องทะเลที่ล้อมรอบสามด้าน ปราสาท Dunnottar ประเทศสกอตแลนด์ มีอายุมากกว่า 500 ปี ในอดีตเคยเป็น ป้อมปราการที่ขึ้นชื่อเรื่อง ชัยภูมิ อันดีเลิศ เคยเป็นทั้ง โบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ พระราชวัง และเคยเป็น คุก ที่มีผู้คนกว่า 4,000 คน

Nottingham Castle (ประเทศอังกฤษ)

รูปภาพ
"Nottingham Castle" คือพระราชวังที่สร้างขึ้นในยุคศตวรรษที่ 17 บนผืนดินซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ตั้งป้อมปราการของราชวงศ์ เที่ยวชมแกลลอรี่ผลงานศิลปะและพิพิธภัณฑ์ ซึ่งปัจจุบันยึดครองพื้นที่ภายในโครงสร้างทางประวัติศาสตร์นี้ พร้อมศึกษาบทบาทของป้อมปราการเก่าในบริบททางประวัติศาสตร์ของเมือง ปราสาทหลังแรกที่ถูกสร้างขึ้นที่นี่ คือปราสาทเนินแบบสถาปัตยกรรมนอร์มัน ทว่าสิ่งปลูกสร้างเกือบทั้งหมดได้ถูกทำลายลงระหว่างช่วงสงครามกลางเมืองอังกฤษเมื่อยุคศตวรรษที่ 17 สำรวจแมนชั่นสำหรับเหล่าขุนนาง ซึ่งสร้างขึ้นแทนที่ปราสาทหลังเดิม พร้อมร่วมเรียนรู้ความเป็นมาของปราสาทและความเชื่อมโยงกับบุคคลที่เป็นตำนานอย่างโรบินฮู้ด มีการกล่าวขานถึงปราสาทหลังนี้ในเรื่องราวและตำนานต่างๆ เกี่ยวกับหัวขโมยผู้มีเกียรติและนายอำเภอผู้ชั่วร้าย

Galapagos Islands (ประเทศเอกวาดอร์)

รูปภาพ
"Galapagos Islands" เป็นหมู่เกาะกลางมหาสมุทรแปซิฟิก มีความน่าสนใจทั้งด้านธรณีวิทยา สัตววิทยา และนิเวศวิทยาเป็นอย่างยิ่ง เป็นส่วนหนึ่งของประเทศเอกวาดอร์ โดยมีชื่อภาษาสเปนอย่างเป็นทางการว่า กลุ่มเกาะโกลอน ตั้งอยู่ในแนวเส้นศูนย์สูตร ห่างจากทวีปออกไปทางตะวันตก 1,000 กิโลเมตรหมู่เกาะกาลาปาโกสประกอบด้วย 18 เกาะหลัก เกาะเล็ก 3 เกาะ พร้อมเกาะเล็ก ๆ และโขดหินกลางทะเลอีกประมาณ 170 แห่ง โดยมีพื้นที่ทั้งหมด 7,994 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ในทะเล 59,500 ตารางกิโลเมตร เกาะต่าง ๆ มีชื่อเรียกทั้งในภาษาสเปนและภาษาอังกฤษ สัตว์ชนิดแรกเป็นสัตว์หายากน่ารักๆ ที่หลายคนชื่นชอบ นั่นก็คือสิงโตทะเลนั่นเอง สิงโตทะเลบนหมู่เกาะกาลาปากอสเป็นสิงโตทะเลชนิดเดียวที่อาศัยอยู่ในเขตร้อน โดยมีข้อสันนิษฐานว่าอาจเป็นเพราะสิงโตทะเลเหล่านี้โดนกระแสน้ำเย็นพัดมาตั้งแต่ยุคน้ำแข็ง จึงทำให้ได้มาตั้งรกรากอยู่บนเกาะกาลาปากอส สิงโตทะเลบนเกาะกาลาปากอสนั้นไม่กลัวมนุษย์ ยิ่งเห็นมนุษย์ยิ่งเข้ามาอยู่ใกล้ๆ ทั้งบนบกและในน้ำ ทำให้นักท่องเที่ยวยิ่งชื่นชอบและอยากมาเที่ยวเล่นกับสิงโตทะเลแห่งเกาะกาลาปากอสเหล่านี้

The Alhambra (ประเทศสเปน)

รูปภาพ
"The Alhambra" คือพระราชวังและป้อมปราการตั้งอยู่ที่เมืองกรานาดาในแคว้นอันดาลูซิอา ทางภาคใต้ของประเทศสเปน สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1248-1354 โดยกษัตริย์มุสลิมชาวมัวร์ สุลต่านมุฮัมมัดที่ 1 อิบน์ นัสร์แห่งราชวงศ์นาสริด ซึ่งเป็นราชวงศ์ของชาวมุสลิมราชวงศ์สุดท้ายในสเปน คำว่า "อาลัมบรา" มาจากคำในภาษาอาหรับว่า "อัลฮัมรออ์" แปลว่า "(สิ่ง) ที่มีสีแดง" เนื่องจากตัวป้อมปราการนั้นก่อสร้างด้วยหิน ดิน และอิฐสีแดง ส่วนอาคารอื่น ๆ ซึ่งสร้างด้วยใช้ปูนขาวเป็นส่วนประกอบก็จะเห็นเป็นสีออกแดง ๆ เช่นกัน สถาปัตยกรรมของพระราชวังอาลัมบรามีความโดดเด่นด้วยลายแกะสลักอย่างละเอียดและประณีต ทั้งผนัง เสา เพดาน โค้งซุ้มประตูต่าง ๆ ล้วนแกะสลักอย่างละเอียด นับเป็นงานศิลป์ชั้นยอดของชาวมัวร์ในยุคนั้น แม้อาลัมบราจะมีที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง แต่ก็มีระบบการจัดการเกี่ยวกับน้ำที่ดี มีการทำคูคลองส่งน้ำจากด้านล่างขึ้นมายังพระราชวังเพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภค ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงภูมิปัญญาด้านการชลประทานของชาวมัวร์ได้เป็นอย่างดี

Shifen Waterfall (ประเทศไต้หวัน)

รูปภาพ
"Shifen Waterfall" น้ำตกที่นี่มีความสูง ๒๐ เมตร กว้าง ๔๐ เมตร เป็นน้ำตกที่ไม่ใหญ่มาก แต่สร้างความประทับใจให้แก่ผู้เข้าชมได้ไม่น้อย ทั้งยังมีความงดงามไม่แพ้น้ำตกอื่นๆ จนได้รับการขนานนามว่า “ไนแองการ่าแห่งไต้หวัน” เนื่องด้วยลักษณะของขอบน้ำตกโค้งรูปเกือกม้าและมีน้ำไหลลงสู่แอ่งน้ำขนาดใหญ่คล้ายกับน้ำตกไนแองการ่าของประเทศสหรัฐอเมริกานั่นเอง น้ำตกซือเฟิ่น น้ำตกที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของไต้หวันและเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติยอดนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ตั้งอยู่ในย่านผิงซี เมืองนิวไทเป จุดท่องเที่ยวยอดฮิตของเส้นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์ผิงซี อยู่ระหว่างสถานีซือเฟิ่นและสถานีต้าหัว ชื่อ “ซือเฟิ่น” ตั้งตามชื่อของครอบครัวดั้งเดิมผู้พัฒนาพื้นที่แห่งนี้ ในปัจจุบันสืบเนื่องจากความนิยมที่เพิ่มมากขึ้นทางรัฐบาลไต้หวันจึงได้เข้ามาควบคุมพื้นที่น้ำตกเพื่อจัดการดูแลความเรียบร้อย

Cristo Redentor Statue (ประเทศบราซิล)

รูปภาพ
"Cristo Redentor Statue" เป็นอลังการประติมากรรมพระเยซูตั้งอยู่บนยอดเขากอร์โกวาดู ประเทศบราซิล สูงราว 38 เมตร โดยปอล ลันดอฟสกี ประติมากรชาวฝรั่งเศสเชื้อสายโปแลนด์เป็นผู้ออกแบบ และเอโตร์ ดา ซิลวา กอชตา วิศวกรชาวบราซิลดำเนินการสร้าง ใช้เวลาในการสร้าง 5 ปี โดยทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2474 ประติมากรรมนี้ถือเป็นอนุสาวรีย์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก  รูปปั้นของพระเยซูที่โปรดให้พ้นบาป ยืนสูง 30 เมตร (98 ฟุต) และกำลังมองข้ามเมือง Rio de Janeiro หนึ่งในรูปปั้นสูงที่สุดในโลก รูปปั้นพระเยซูเยืนยื่นแขนออกมาต้อนรับ และเป็นหนึ่งของสัญลักษณ์ที่มีชื่อเสียงมากของเมืองนี้ พัฒนาโดยวิศวกร Heitor da Silva Costa และองค์กร สร้างขึ้นในปี 1921 โครงการทำเกือบ 5 ปีจึงเสร็จสิ้น

Sea Cliffs, Etretat (ประเทศฝรั่งเศส)

รูปภาพ
"Sea Cliffs, Etretat" หมู่บ้านเอทเทรทาท์ เป็นที่รู้จักกันในชื่อเสียงของ"หน้าผาและเสาหินโค้งธรรมชาติแห่งเอทเทรทาท์" (The Cliffs at Etretat) โดยจุดท่องเที่ยวแห่งนี้ได้ กลายเป็นสถานที่ดึงดูดเหล่านักท่องเที่ยวและศิลปินเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีชายหาดที่ขนานไปกับแนวยาวของชายฝั่ง ซึ่งมีความสวยงามมากแห่งหนึ่งอีกด้วย  ชายหาดที่ขนานไปกับแนวยาวของชายฝั่ง ลักษณะของชายหาดไม่ได้เป็นทรายแบบเมืองไทยบ้านเรา แต่จะเป็นหินกรวดเล็กๆ เมื่อเดินขึ้นไปบนหน้าผา ซึ่งหน้าผามีความสูงชันมาก พอมองลงมาจะพบกับวิวของบ้านเรียงรายกันติดชายหาด สวยงามมากๆ

Panjin Red Beach (ประเทศจีน)

รูปภาพ
"Panjin Red Beach" สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและกำลังเป็นที่ฮือฮากันมากในปัจจุบัน โดยหาดแห่งนี้อยู่ในพื้นที่ชุ่มน้ำที่ใหญ่ในเขตเมืองผานจิ่น (Panjin) เมืองในมณฑลเหลียวหนิง (Liaoning Province) ของสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยปรากฏการณ์หาดสีแดงนั้นเกิดจากสาหร่ายสีแดงชนิดหนึ่งที่เติบโตได้ดีในดินเค็ม  หาดสีแดง แห่ง เมืองผานจิ่น ถือเป็นแหล่งธรรมชาติที่มีความอุดมสมบูรณ์ เป็นที่อยู่อาศัยของนกนานาชนิด เช่น นกป่า นกกระเรียน และนกนางนวล ปัจจุบัน หาดสีแดง ถือเป็น สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจีน ซึ่งได้รับความสนใจจากทั่วโลก ในช่วงฤดูร้อนคือช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคมสาหร่ายจะยังเป็นสีเขียว หลังจากนั้นในช่วงฤดูใบไม้ร่วงสาหร่ายจะเริ่มเปลี่ยนสีเป็นสีแดงซึ่งกินพื้นที่กว่า 100 ตารางกิโลเมตร เวลานี้เองชายหาดทั้งหาดจะถูกปกคลุมไปด้วยพรมแดงที่ไม่มีที่สิ้นสุด ก่อเกิดเป็นภูมิทัศน์ทะเลสีแดงที่หาได้ยากยิ่ง

Shirakawa-go (ประเทศญี่ปุ่น)

รูปภาพ
"Shirakawa-go" มีอายุกว่า 250 ปี ซึ่งยูเนสโก้ประกาศให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี 1995 เอกลักษณ์ของหมู่บ้านนี้คือ บ้านทรงกัสโชสึคุริ เป็นหนึ่งในรูปแบบสถาปัตยกรรมเก่าแก่ของญี่ปุ่น ออกแบบพิเศษด้วยภูมิปัญญาของชาวบ้าน ให้มีความแข็งแรงทนทาน และสามารถจัดการกับหิมะในฤดูหนาวได้ดี เพราะการสร้างหลังคาให้ลาดชันแบบนี้เพื่อให้หิมะที่ตกลงมาทับถมกันหนักตกลงไปข้างล่างตามธรรมชาติ ที่สำคัญหมู่บ้านชิราคาวาโกะ ถูกห้อมล้อมด้วยทิวเขาสลับซับซ้อน ชิราคาวาโกะ ก็คือ บ้านญี่ปุ่นโบราณมีหลังคาทรงสูงแบบการพนมมือที่เรียกว่า “Gassho-Zukuri” ซึ่งมีอายุเก่าแก่นับร้อยปีและยังได้รับการอนุรักษ์มาเป็นอย่างดีจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้บ้านต่างๆ ยังเปิดให้นักท่องเที่ยวค้างคืนแบบ Homestay ซึ่งเรียกว่า “Minshuku” ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีในการสัมผัสชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ที่นี่ หากใครนึกภาพไม่ออก ให้คิดถึงประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตลอดข้างทางเป็นภูเขาหิมะที่สูงใหญ่ สลับกับแม่น้ำที่ไหลคดเคี้ยวไปตามขุนเขา คือดีงามมากจริงๆ นี่ขนาดยังไม่ถึงหมู่บ้านยังประทับใจแล้ว

Zion National Park (ประเทศสหรัฐอเมริกา)

รูปภาพ
"Zion National Park" เป็นอุทยานแห่งชาติทางตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา อุทยานแห่งนี้มีพื้นที่ 593 ตร.กม. หรือ 370,625 ไร่ มีสถานที่สำคัญคือ หุบเขาไซออน ซึ่งยาว 15 กิโลเมตร และลึก 800 เมตร ตัดผ่าน Najavo Sandstone สีแดงโดยสาขาเหนือของแม่น้ำเวอร์จิน เนื่องจากตั้งอยู่ที่จุดเชื่อมต่อระหว่างที่ราบสูงโคโลราโด , Great Basin, และทะเลทราย Mojave อุทยานแห่งนี้จึงมีสภาพทางภูมิศาสตร์ที่เป็นเอกลักษณ์และมี Life zone ที่หลากหลาย ทำให้มีความหลากหลายของพืชและสัตว์สูงมาก หน้าผาหลากสีในอุทยานแห่งชาติไซออนเป็นทิวทัศน์อันงดงามน่าจดจำ ขี่ม้า ไต่เขา ปั่นจักรยาน หรือนั่งรถชัทเทิลผ่านหุบเขาลึกเพื่อไปสำรวจการก่อตัวทางธรณีวิทยาอันน่าทึ่งจากชั้นหินทรายสีส้ม สีชมพู และสีขาว มองหาต้นไม้กว่า 900 สายพันธุ์ บ้างก็งอกออกมาจากหินที่แห้งแล้ง ที่นี่มีนกกว่า 200 ชนิดอาศัยอยู่หรืออพยพผ่านมา ชมกวางล่อสีน้ำตาลหรือแกะทะเลทรายเขาใหญ่ซึ่งเคลื่อนตัวอย่างช้าๆ อยู่หน้าหินทรายสีส้ม และมองหานกแร้งแคลิฟอร์เนียบนหน้าผา

เยลโลว์ สโตน (ประเทศสหรัฐอเมริกา)

รูปภาพ
"เยลโลว์ สโตน" เป็นอุทยานแห่งแรกของโลกและของสหรัฐอเมริกา ตั้งอยู่ในเขตติดต่อ 3 รัฐได้แก่ ไวโอมิง มอนแทนา และไอดาโฮ แต่พื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในรัฐไวโอมิง เป็นอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐ มีเนื้อที่มากกว่า 2 ล้านเอเคอร์ คือประมาณ 43,750 ตารางไมล์ ภายในอุทยานประกอบไปด้วยที่ราบสูงและภูเขาสูงมีหน้าผาชัน และทะเลสาบ เยลโลว์สโตนเป็นอุทยานแห่งชาติที่มีบ่อน้ำร้อน และน้ำพุร้อน มากกว่า 10,000 แห่ง และ 250 แห่งเป็นบ่อน้ำพุร้อน ภายในอุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวสวย ๆ และน่าตื่นตาตื่นใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็น บ่อน้ำพุร้อนหลากสี, ทะเลสาบ, ภูเขาไฟใต้พื้นดิน (Supervolcano), บ่อโคลนเดือด, น้ำตกมากกว่า 300 แห่ง, ไกเซอร์ (geysers) มากกว่า 10,000 แห่ง และป่าเขา แม่น้ำลำธารที่อุดมสมบูรณ์รอบ ๆ อุทยาน อันเกิดจากความหลากหลายด้านธรณีวิทยา ไฮไลท์ของที่นี่ คือ บ่อน้ำพุร้อนสีรุ้ง แห่งเยลโลว์สโตน (Grand Prismatic Spring) เป็นบ่อน้ำพุร้อนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอเมริกา และใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก ได้รับการยอมรับว่าสวยที่สุดในโลก เอกลักษณ์ที่โดดเด่นไม่เหมือนใครคือสีสันขอ