บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก พฤศจิกายน, 2019

บ้านรักไทย (จังหวัดแม่ฮ่องสอน)

รูปภาพ
"บ้านรักไทย" ตั้งอยู่หมู่ที่ 6 ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นหมู่บ้านชาวจีนยูนนานอดีตทหารจีนคณะชาติ (กองพล 93) “ก๊กมินตั๊ง” บ้านรักไทยอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลกว่า 1,776 เมตร ทำให้พื้นที่เหมาะสมอย่างยิ่งกับการปลูกชาพันธุ์ดี และพืชเมืองหนาว ทิวทัศน์ของหมู่บ้านโอบล้อมไปด้วยทิวเขา แมกไม้ที่อุดมสมบูรณ์ บ้านรักไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อในเรื่องของชาและขาหมู่หมั่นโถว คล้ายกับดอยแม่สลอง (กองพลเดียวกัน) นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวที่แห่งนี้เพื่อดื่มด่ำกับการชิมชา และทานขาหมูหมั่นโถว บ้างก็หลีกหนีความวุ่นวายมาหาความเงียบสบายของบ้านรักไทยแห่งนี้ บ้านรักไทยยังมีกิจกรรมหลายอย่างไว้ให้นักท่องเที่ยวได้สนุกสนาน เช่น การเดินป่าศึกษาเส้นทางโดยมัคคุเทศน์น้อย พาเข้าไปชม "คุกดิน" และการขี่ม้าพาข้ามแดนไปฝั่งพม่า ที่บ้านรักไทยยังมีเกสถ์เฮาส์ริมน้ำ (บ้านดิน) ไว้บริการนักท่องเที่ยวที่ต้องกับสัมผัสกับธรรมชาติแบบใกล้ชิดอีกด้วย

วัดพระธาตุดอยกองมู (จังหวัดแม่ฮ่องสอน)

รูปภาพ
"วัดพระธาตุดอยกองมู" เดิมชื่อ วัดปลายดอน ตั้งอยู่ที่ดอยกองมู ทางทิศตะวันตกของอำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ถือเป็นวัดและพระธาตุประจำจังหวัด พระธาตุดอยกองมู เป็นปูชนียสถาน ประกอบด้วย พระธาตุเจดีย์ ศิลปะไทใหญ่-พม่า จำนวน 2 องค์ วัดพระธาตุดอยกองมู เป็นวัดศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวจังหวัดแม่ฮ่องสอนมาช้านาน ตั้งอยู่บนดอยกองมู ทางทิศตะวันตกของ ตัวเมืองแม่ฮ่องสอนเพียง 3 ก.ม. เดินทางโดยแยกจากทางหลวงสาย 108 ตรงบริเวณอนุสาวรีย์พระยาสิงหนาทราชาขึ้นไปทางซ้ายมือ เป็นทางลาดยางขึ้นภูเขาไปอีกประมาณ 1.5 กิโลเมตร ก็จะถึงบริเวณวัดพระธาตุดอยกองมู ด้วยพระธาตุเจดีย์ที่สวยงาม 2 องค์ พระเจดีย์องค์ใหญ่สร้างโดย จองต่องสู่ เมื่อ พ.ศ. 2403 เป็นที่บรรจุพระธาตุของ พระโมคคัลลานะ เถระ ซึ่งนำมาจากประเทศพม่า ส่วนพระธาตุเจดีย์องค์เล็กสร้างเมื่อ พ.ศ. 2417 โดย พระยาสิงหนาทราชา เจ้าเมืองแม่ฮ่องสอนคนแรก จากวัดพระธาตุดอยกองมูนี้สามารถมองเห็นภูมิประเทศและสภาพตัวเมืองแม่ฮ่องสอนได้อย่างชัดเจน และสวยงามมาก วัดนี้มีงานเทศกาลประจำปีหลายงาน เช่น ในวันปีใหม่ วันสงกรานต์ โดยเฉพาะในวันออกพรรษาจะมีก

สวนหลวง ร.9 (จังหวัดกรุงเทพมหานคร)

รูปภาพ
"สวนหลวง ร.9" เป็นสวนสาธารณะและสวนพฤกษศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพมหานคร มีพื้นที่ประมาณ 500 ไร่ อยู่ในแขวงหนองบอน เขตประเวศ ทางตะวันออกของกรุงเทพมหานคร จัดสร้างเพื่อสร้างเพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในศุภมงคลสมัยเจริญพระชนมพรรษา 60 พรรษา 5 ธันวาคม พ.ศ. 2530 โดยศาสตราจารย์กิตติคุณ เดชา บุญค้ำ เป็นประธานออกแบบงานภูมิทัศน์ ส่วนหอรัชมงคลซึ่งจัดเป็นสัญลักษณ์สำคัญของสวนหลวง ร.9 ได้รับการออกแบบโดย ม.ล.ตรีทศยุทธ เทวกุล ปัจจุบันมี หม่อมหลวงชนะพันธุ์ กฤดากร เป็นประธานคณะกรรมการบริหารสวนหลวง ร.๙ บริเวณเฉลิมพระเกียรติ ประกอบด้วยหอรัชมงคล และอุทยานมหาราช ภายในหอรัชมงคลจัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจ และเครื่องใช้ส่วนพระองค์ สวนพฤกษศาสตร์ เป็นวัตถุประสงค์สำคัญในการจัดสร้างสวนหลวง ร.9 แห่งนี้ เนื้อที่รวม 150 ไร่ มีการจัดพันธุ์ไม้หลักอนุกรมวิธานและนิเวศวิทยา และยังเป็นที่รวบรวมไม้พันธุ์ต่างๆ ของไทย รวมทั้งไม้ที่หายาก และสมุนไพรต่างๆ พร้อมทั้งสวนนานาชาติ เช่น สเปน ฝรั่งเศส อิตาลี ญี่ปุ่น และอังกฤษ

หาดหงส์ (จังหวัดอุบลราชธานี)

รูปภาพ
"หาดหงส์" เนินทรายแม่น้ำโขงขนาดมหึมาเกิดจากการพัดพาของน้ำและนำตะกอนทรายมาทับถมกันจนลักษณะพื้นที่เป็นพื้นทรายกว้างใหญ่ ช่วงเวลาที่นิยมมาเที่ยวหาดหงส์จะเป็นช่วงเวลาในยามบ่ายแก่ๆ ช่วงที่พระอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้า ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาที่สวยงามมาก หาดหงส์ ทะเลทรายเล็กๆ ในจังหวัดอุบลราชธานี แห่งเดียวในประเทศไทย ที่พิเศษก็คือทะเลทรายแห่งนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขงติดกับดินแดนสามพันโบก จึงทำให้ทัศนียภาพสวยงามตระการตาเป็นพอเศษ เดินทางได้วิธีเดียวคือการนั่งเรือเข้าไป ใครที่ชอบถ่ายภาพและรักการผจญภัยหาโอกาสมากดซัตเตอร์กันได้ที่นี่รับรองได้ภาพสวยๆไปอวดเพื่อนๆแน่นอน

แหลมพรหมเทพ (จังหวัดภูเก็ต)

รูปภาพ
"แหลมพรหมเทพ" เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต ตั้งอยู่ห่างจากหาดราไวย์ประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นแหลมที่อยู่ตอนใต้สุดของจังหวัดภูเก็ต มีทัศนียภาพที่สวยงาม และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่ได้รับความนิยม เป็นที่ตั้งของประภาคารกาญจนาภิเษก สุดปลายของแหลมพรหมเทพ มีชื่อว่าแหลมเจ้า บริเวณตัวแหลมซึ่งยื่นออกไปในทะเล มีลักษณะโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ด้วยต้นตาลที่ขึ้นอยู่กลุ่มใหญ่ แหลมพรหมเทพ ถูกจัดเป็นหนึ่งในโครงการมหัศจรรย์เมืองไทย 12 เดือน 7 ดาว 9 ตะวัน ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จุดเด่นคือ "ชมพระอาทิตย์ตก ทะเลสวยที่สุดในประเทศไทย" หากใครได้มีโอกาสมาเที่ยวภูเก็ตแล้วไม่ได้มาชมอาทิตย์อัสดงที่ แหลมพรหมเทพ ถือว่ายังมาไม่ถึงหรือ เรียกว่าเป็นการท่องเที่ยวที่ยังไม่สมบูรณ์ตามแบบฉบับของการมาเที่ยวเมืองภูเก็ต แหลมพรหมเทพจัดเป็นหนึ่งในจุดชมอาทิตย์ตกก่อนใครที่สวยที่สุดในเมืองไทย เป็นแหลมที่อยู่ใต้สุดของเกาะภูเก็ตห่างจากตัวเมืองประมาณ 19 กม. มีลักษณะเป็นแหลมโค้งไล่ระดับทอดตัวสู่ท้องทะเล รอบข้างแวดล้อมด้วยต้นตาลที่ขึ้นแทรกอยู่เรียงรายตามต้นหญ้าที่พัดพลิ้ว นักท่อ

เกาะตาชัย (จังหวัดพังงา)

รูปภาพ
"เกาะตาชัย" ตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน และอยู่ไม่ไกลจากหมู่เกาะสุรินทร์มากนัก ถูกพบครั้งแรกโดยชายที่ชื่อ ตาชัย ทำให้ตั้งชื่อเกาะตามคนค้นพบว่า เกาะตาชัย  ถือได้ว่าเป็นเกาะบริวารที่อยู่ในความดูแลรับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน เกาะตาชัย มีลักษณะทางธรรมชาติที่คล้ายคลึงกับสิมิลันไม่ว่าจะเป็นน้ำทะเลสีฟ้าใส หาดทรายขาวละเอียดนุ่มเท้า หาดทรายขาวที่ทอดยาวขนานไปกับผืนน้ำประมาณ 700 เมตร  มีจุดดำน้ำดูปะการังที่ทอดตัวยาวขนานกับชายหาด มีแนวปะการังที่สวยงาม และค่อนข้างสมบูรณ์ไปด้วยปะการังแข็งและปะการังอ่อนสีแดง และความสมบูรณ์ของแนวปะการังทำให้เกาะตาชัยอุดมไปด้วยปลาทะเลน้อยใหญ่ที่เข้ามาหากินและหลบภัยจากอวนลากของชาวประมง หากมาในช่วงจังหวะดีๆ จะได้พบเห็นฉลามวาฬ กระเบนราหู และกระเบนนกเวียนว่ายไปมาทักทายด้วยความงดงามและความสมบูรณ์ของธรรมชาติ มีจุดชมวิวที่สวยงาม ทำให้เกาะตาชัยกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ทำให้นักท่องเที่ยวหลายต่อหลายคนอยากเดินทางไปสัมผัส  

น้ำตกแม่ยะ (จังหวัดเชียงใหม่)

รูปภาพ
"น้ำตกแม่ยะ" เป็นน้ำตกที่มีตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ได้ชื่อว่าเป็นน้ำตกที่สวยอันดับต้นๆ ของไทย เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่มีความสวยงามมาก มีขนาดใหญ่และสวยที่สุด และสูงที่สุดของของบรรดาน้ำตกในอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ใครได้แวะไปดอยอินทนนท์ระหว่างขึ้นดอยไม่ควรพลาด เคยได้รับการจัดอันดับเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดของประเทศไทยก่อนมีการค้นพบน้ำตกทีลอซูที่จังหวัดตาก สายน้ำจากลำห้วยแม่ยะตกจากหน้าผาสูงชันไหลลดหลั่นลงมาประมาณ 30 ชั้น รวมความสูงกว่า 260 เมตร ในช่วงฤดูฝนสายน้ำตกจะแผ่กว้างถึง 100 เมตร เหมือนกับม่านน้ำแล้วไหลลงไปรวมกันที่แอ่งน้ำเบื้องล่าง ดูสวยงามมาก บางช่วงของหน้าผาเป็นชะง่อนหินให้นักท่องเที่ยวเข้าไปหลบละอองไอน้ำที่ตกกระทบ มองดูเหมือนม่านหมอกสีขาว สะอาดตา สัมผัสกับความงดงามของธรรมชาติอีกรูปแบบหนึ่งแล้วลงเล่นน้ำที่แอ่งด้านล่างอย่างสนุกสดชื่น น้ำตกแม่ยะในฤดูแล้งปริมาณน้ำอาจลดน้อยลง แต่สายน้ำตกจะใสสะอาดกว่า รอบๆบริเวณน้ำตกแม่ยะเป็นป่าไม้พรรณไม้ร่มรื่นเหมาะสำหรับการไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ ทางด้านท้ายน้ำตกแม่ยะการไฟฟ้าฝ่ายผลิตได้ติดตั้งโรงไฟฟ้าพลังน้ำ เพื

เขาล้อมหมวก (จังหวัดประจวบคีรีขันธ์)

รูปภาพ
"เขาล้อมหมวก" อยู่ในเขตของพื้นที่กองบิน 5 อ่าวมะนาว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีลักษณะเป็นภูหินปูน สูงประมาณ 900 ฟุต หรือ 300 เมตร จากระดับน้ำทะเล บนยอดเขาเป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลอง และพระบรมสารีริกธาตุ อันเป็นที่เคารพสักการะ และเป็นจุดชมวิว 360 องศา มองเห็นวิวทั้งสามอ่าวของจังหวัดประจวบฯ (อ่าวประจวบ,อ่าวน้อย,อ่าวมะนาว) สวยงามตระการตา เขาล้อมหมวกเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเวลา 8.00 น. – 18.00 น. (หากเกินจากนี้ เจ้าหน้าที่จะไม่อนุญาตให้ขึ้นเขา) โดยระยะเวลาในการพิชิตเขาล้อมหมวกอยู่ที่ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง รับรองว่าถูกใจนักท่องเที่ยวขาลุยแน่นอน ซึ่งนอกจากจะได้ชมทัศนียภาพอันสวยงามที่เบื้องบน ได้สักการะรอยพระพุทธบาทจำลอง แล้วยังจะได้สัมผัสกับความน่ารักของเจ้าค่างแว่นอีกด้วย การเดินทางนั้นจะต้องเข้าไปภายในกองบิน 53 แล้วจะมีทางแยกไปเขาล้อมหมวกก่อนที่จะถึงอ่าวมะนาว เมื่อเลี้ยวเข้าทางแยกในกองบินก็ให้ขับตรงไปจนถึงตีนเขา โดยสามารถจอดรถที่บริเวณนี้ จากนั้นก็จะพบกับศาลเจ้าพ่อเขาล้อมหมวกและฝูงค่างแว่นจำนวนมาก

บึงบัวสามร้อยยอด (จังหวัดประจวบคีรีขันธ์)

รูปภาพ
"อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด" ตั้งอยู่อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้รับการประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 4 ของประเทศไทย และเป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลแห่งแรกในเมืองไทย ในปี พ.ศ. 2509  เขาสามร้อยยอด ถือว่าเป็นอุทยานแห่งชาติที่มีความหลากหลายของสภาพทางภูมิศาสตร์ เพราะมีทั้งพื้นที่ที่เป็นทะเล หาดทราย หาดเลย ป่าเขาหินปูน ป่าชายเลน ป่าพรุน้ำจืด ทุ่งหญ้า และพื้นที่ชุ่มน้ำ หลากธรรมชาติแบบนี้จึงทำให้ เขาสามร้อยยอด เป็นแหล่งรวมสถานที่ท่องเที่ยวอันหลากหลาย เลือกได้ตามความพิศมัย ไม่ว่าจะเป็นนอนผึ่งแดดริมหาด พายเรือคายัก ท่องป่าชายเลน ขึ้นเขาชมพระอาทิตย์ขึ้น ยืนริมบึงชมนานาบัว และ บึงบัว เป็นจุดเด่นใน เขาสามร้อยยอด บึงบัว แห่ง ทุ่งสามร้อยยอด มีบัวสายพันธุ์ต่างๆ ขึ้นอยู่ในพื้นที่กว่า 500 ไร่ ไม่ว่าจะเป็นบัวหลวง บัวเผื่อน บัวผัน บัวสาย รวมถึงพืชน้ำนานาพันธุ์ อย่าง กก อ้อ ธูปฤาษี ถ้าไปจังหวะเหมาะ น่าจะช่วงปลายฤดูหนาว จะได้เห็นภาพบัวบานสะพรั่ง ผลิดอกพร้อมกันละลานเต็มบึง เกิดเป็นทัศนียภาพอันสวยสด ถึงแม้ ณ ปัจจุบันบึงบัวแห่งนี้จะไม่มีบัวหลงเหลือแล้ว นักท่องเที

จุดชมวิวเขามัทรี (จังหวัดชุมพร)

รูปภาพ
"จุดชมวิวเขามัทรี" อยู่บนเส้นทาง ชุมพร - ปากน้ำ – หาดทราย ที่นี่เป็นแหล่งแหล่งท่องเที่ยวจุดชมวิวทิวทัศน์ที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งของชุมพร สามารถชมวิวทิวทัศน์ ได้ 360 องศา สามารถมองเห็นชุมชนปากน้ำชุมพรและชายหาดของทะเลชุมพร โดยเฉพาะในยามเย็นช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ตกงดงามมาก ซึ่งบริเวณจุดชมวิวมีร้านกาแฟพร้อมระเบียงชมวิวให้ได้ชมทัศนียภาพอีกด้วย ข้างบนจุดชมวิวมีห้องน้ำให้บริการ และลานจอดรถซึ่งจอดได้ไม่มากนัก ด้านบนจุดชมวิวเขามัทรี มีพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรปางมหาราชลีลา ลักษณะคล้ายกับท่านั่งขององค์จตุคามรามเทพมองออกไปที่ชายทะเลชุมพร ด้านขวาเป็นหาดภราดรภาพ มองจากบนเขาเห็นชุมชนปากน้ำชุมพรและชายหาดปากน้ำชุมพรเป็นชุมชนขนาดใหญ่เนื่องจากเป็นท่าเทียบเรือประมง การเดินทาง ใช้เส้นทางชุมพร-ปากน้ำชุมพร 10 กม. ถึงสามแยกเลี้ยวขวาไปหาดทรายรี ขึ้นเนินเขาสัก 800 เมตร จะมีโค้งเลี้ยวไปทางขวา ให้สังเกตทางขึ้นจุดชมวิวเขามัทรีเป็นเส้นทางลาดชัน 30 องศา สภาพถนนราดยางอย่างดี แต่จะชันในช่วงสุดท้ายแต่รถทุกชนิดสามารถขึ้นไปได้ถึงข้างบนจุดชมวิว

น้ำตกผาดอกเสี้ยว (จังหวัดเชียงใหม่)

รูปภาพ
"น้ำตกผาดอกเสี้ยว" ตั้งอยู่ที่ บ้านแม่กลางหลวงในเขตอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่และงดงาม ซึ่งอยู่ภายในเขตอุทยานแห่งชาติอินทนนท์ น้ำตกแห่งนี้เคยมีชื่อเสียงมากหลังจากที่ภาพยนตร์เรื่อง รักจัง ซึ่งจะเป็นน้ำตกที่นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวแม่กลางหลวงต้องแวะไป น้ำตกผาดอกเสี้ยวมีทั้งหมด 10 ชั้น โดยชั้นที่ชมได้สะดวกคือ ชั้นที่ 6, 7, 8, 9 และ 10  แต่ไฮไลท์ที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องไปเยือนคือน้ำตกผาดอกเสี้ยว ชั้นที่ 7 เพราะสายน้ำจากน้ำตกชั้นบนไหลตกลงมากระทบน้ำตกชั้นล่าง เป็นสายสีขาว ฟูฟ่อง งดงามเกินบรรยาย อีกทั้งยังมีสะพานไม้สำหรับเดินข้ามลำธาร ที่ช่วยทำให้ความสวยงามของน้ำตกผาดอกเสี้ยวน่ามองเข้าไปอีก ส่วนที่มาของชื่อน้ำตกผาดอกเสี้ยวก็มาจากชื่อต้นเสี้ยวซึ่งเป็นไม้เด่นบริเวณน้ำตกนั่นเอง นอกจากจะได้ชมความสวยงามของน้ำตกผาดอกเสี้ยวแล้ว ยังได้ศึกษาธรรมชาติสองข้างทาง เพลิดเพลินกับนาขั้นบันไดที่หาชมได้ยากเต็มที่ รวมถึงวิถีชีวิตชาวปกาเกอญอ ซึ่งเลื่องชื่อในการอนุรักษ์อีกด้วย สำหรับคนที่สนใจอยากไปเที่ยวน้ำตกแห่งนี้สามารถติดต่อได้ที่ บ้านแม่กลางหลวง (ศูนย์ท่องเที่ยวเ

น้ำตกศรีดิษฐ์ (จังหวัดเพชรบูรณ์)

รูปภาพ
"น้ำตกศรีดิษฐ์" ตั้งอยู่พื้นที่เขาค้อ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ มีน้ำไหลตลอดปี เป็นน้ำตกชั้นเดียว สายน้ำไหลผ่านหน้าผาหินกว้าง มองเห็นคล้ายม่านน้ำตกลงสู่เบื้องล่างกระทบหินน้ำกระเชนสวยงาม ในช่วงฤดูฝนน้ำจะมีปริมาณมาก ในฤดูร้อนน้ำจะไหลเอื่อยๆ แต่ไม่แห้งขอด มีลานกว้างสำหรับเล่นน้ำ เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ และเป็นแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรกรรม ในอดีตผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์เคยยึดบริเวณพื้นที่แถบนี้เป็นค่ายก่อการ โดยสร้างเครื่องมือการเกษตรประเภทเครื่องสีข้าวพลังน้ำ ครกตำข้าว ลานนวดข้าวอยู่ในบริเวณนั้น ปัจจุบันเป็นแหล่งพักผ่อนและแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่มีความสวยงามมากแห่งหนึ่ง ชื่อ น้ำตกศรีดิษฐ์ ตั้งชื่อเพื่อเชิดชูเกียรติ แด่ ส.อ. ประพจน์ ศรีดิษฐ์ ผู้เสียสละชีพในเหตุการณ์เหล่านักรบผู้กล้าเขาค้อได้เข้ามาปราบปรามกลุ่มผู้ก่อการร้ายคอมมินิสต์ที่น้ำตกศรีดิษฐ์  ซึ่งเคยเป็นที่สะสมเสบียงและอยู่อาศัยของกลุ่มผู้ก่อการร้ายคอมมินิสต์ จึงทำให้น้ำตกแห่งนี้ถูกตั้งชื่อเพื่อเชิดชูเกียรติแด่ผู้ที่เสียสละ

พระธาตุเขาน้อย (จังหวัดน่าน)

รูปภาพ
"วัดพระธาตุเขาน้อย" ตำบลดู่ใต้ อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน เป็นวัดราษฎร์ องค์พระธาตุตั้งอยู่บนยอดดอยเขาน้อย ซึ่งอยู่ด้านตะวันตกของตัวเมืองน่าน สร้างในสมัยหลวงปู่เค็ม เมื่อปี พ.ศ. 2562 องค์พระธาตุเป็นเจดีย์ก่ออิฐถือปูนทั้งองค์ เป็นศิลปะพม่าผสมล้านนา ภายในบรรจุพระเกศาธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ในสมัยพระเจ้าสุริยพงศ์ผริตเดชฯ ระหว่างปี พ.ศ. 2449-2454 โดยช่างชาวพม่า และวิหารสร้างในสมัยนี้เช่นกัน จากวัดพระธาตุเขาน้อย สามารถมองเห็นทิวทัศน์โดยรอบของตัวเมืองน่าน ปัจจุบันบริเวณลานชมทิวทัศน์ ประดิษฐานพระพุทธมหาอุดมมงคลนันทบุรีศรีน่าน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางประทานพร บนฐานดอกบัวสูง 9 เมตร บนยอดพระเกศาทำจากทองคำหนัก 27 บาท สร้างขึ้นเนื่องในมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ฯ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2542 วัดพระธาตุเขาน้อย เป็นปูชนียสถานที่สำคัญ และเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของ จ.น่าน สันนิษฐานว่ามีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับพระธาตุแช่แห้ง ตั้งอยู่บนดอยเบาน้อย สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 240 ม. หน้าวัดมีทางขึ้นเป็นบันได