วัดจอมสวรรค์ (จังหวัดแพร่)

"วัดจอมสวรรค์" สร้างสมัยรัชกาลที่ 5 เมื่อ พ.ศ. 2437 โดยชาวเงี้ยว ซึ่งมีถิ่นฐานอยู่ในพม่า และเดินทางมาค้าขายที่เมืองแพร่ เมื่อเกิดเหตุการณ์เงี้ยวปล้นเมืองแพร่ วัดจึงถูกปล่อยให้ทรุดโทรม ต่อมาได้รับการบูรณะจากชาวไทยใหญภายในวัดมีโบราณวัตถุที่มีคุณค่าหลายอย่างของเมืองแพร่และชาติไทยเป็นศิลปะอันล้ำค่าของพระพุทธ ศาสนา กรมศิลปากรได้เล็งเห็นความสำคัญของโบราณสถาน และโบราณวัตถุอันล้ำค่า จึงได้จดทะเบียนไว้เป็นสมบัติของชาติ เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2533 เพื่อจะได้อนุรักษ์ ไว้ให้ลูกหลานสืบไป

วัดจอมสวรรค์ เป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมศิลปะไทใหญ่ ตัวอารามเป็นทั้งโบสถ์ วิหารและกุฏิ มีหลังคาเล็กใหญ่ลดหลั่นกันไป ตัวอาคารสร้างด้วยไม้สักทั้งหลัง ภายในตกแต่งอย่างบรรจงวิจิตรงดงาม เสาไม้มีทั้งลงรักปิดทองและประดับกระจกสีงดงามด้วยลวดลายแบบไทใหญ่ ลวดลายเพดานตกแต่งด้วยกระจกสีต่างๆ ส่วนใหญ่เป็นรูปสัตว์หิมพานต์ มีความวิจิตรงดงามมาก ซึ่งเป็นลวดลายที่เกิดจากการนำเอากระจกสีที่มีขนาดไม่เท่ากัน มาเรียงปะติดปะต่อให้เกิดเป็นลวดลายตามความเชื่อได้อย่างงดงาม เป็นงานที่มากด้วยคุณค่า สร้างความตื่นตาตื่นใจต่อผู้พบเห็น

ภายในวัดมีหลวงพ่อสาน เป็นพระพุทธรูปที่สร้างโดยใช้ไม้ไผ่สานเป็นองค์ลงรักปิดทอง มี ซึ่งมีหน้าตักกว้าง 54 เซนติเมตร สูง 80 เซนติเมตร ปางสะดุ้งมาร ประดิษฐานอยู่ ณ วัดแห่งนี้ด้วย มีพระพุทธรูปงาช้าง ซึ่งเป็นศิลปะแบบพม่า คัมภีร์งาช้าง หรือคัมภีร์ปาติโมกข์ โดยนำงาช้างมาบดแล้วอัดเป็นแผ่นบาง ๆ เขียนลงรักแดง จารึกเป็นอักษรพม่า และยังมี บุษบก ลวดลายวิจิตรงดงามประดิษฐานพระพุทธรูปหินอ่อน นอกจากนี้ยังมีเจดีย์ที่คล้ายกับเจดีย์ชเวดากอง มีรูปทรงแบบพม่า คือ มีเจดีย์ใหญ่อยู่กลางรายล้อมด้วยเจดีย์เล็กทั้ง 4 ด้าน ด้านละ 3 องค์
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น