บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก กันยายน, 2019

พญาเต่างอย (จังหวัดสกลนคร)

รูปภาพ
"พญาเต่างอย" กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดโด่งดังในหมู่นักเสี่ยงโชคและผู้ที่มีจิตศรัทธามากที่สุดในขณะนี้เลยก็ว่าได้ หลังจากผู้ที่เดินทางมาสักการะได้รับโชคกลับบ้านไปกันหลายราย ซึ่งหลายๆ คนคงเคยได้ยินเพลงที่มีเนื้อร้องพูดถึงเต่างอยของคุณ จินตหรา พูนลาภ กันมาบ้างแล้ว ยิ่งตอกย้ำถึงความดังและเป็นที่นิยมของพญาเต่างอยนี้ ตำนานพญาเต่างอย เล่าว่า เมื่อประมาณ 400 ปี ไทยได้ทำสงครามกับลาว ลาวพ่ายแพ้ จึงถูกกวาดต้อนมาอยู่ในประเทศไทย เมื่อมาถึงบริเวณลำน้ำพุง ลำน้ำขนาดใหญ่และมีเต่าอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากบริเวณฝั่งแม่น้ำพุง ผู้คนสมัยนั้นได้พิจารณาเห็นว่า มีความอุดมสมบูรณ์และเหมาะสมจึงได้ตั้งถิ่นฐานที่อยู่อาศัย ตั้งชื่อหมู่บ้านว่า "บ้านเต่างอย" ตามสถานที่พบเห็นเต่าที่กำลังลอยริมฝั่งแม่น้ำ ภายหลังมีการสร้างสัญลักษณ์ และเป็นศูนย์รวมจิตใจของอำเภอเต่างอยขึ้น โดยให้ช่างจากศูนย์ฝึกศิลปาชีพบ้านกุดนาขาม สร้างรูปปั้นเต่ายักษ์ไว้หลังที่ทำการอำเภอเต่างอย มีลักษณะเป็นเต่าขนาดใหญ่ เกล็ดบนหลังแต่ละเกล็ดมีรูปพระเกจิอาจารย์ประดับตกแต่ง ส่วนบนหลังจะประดับด้วยดอกบัวปั้น ในดอกบัวมีสร้อยทอง พร

ปราสาทสัจธรรม (จังหวัดชลบุรี)

รูปภาพ
"ปราสาทสัจธรรม" เป็นปราสาทที่ทำด้วยไม้ทั้งหลังที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ตั้งอยู่ ณ บริเวณแหลมราชเวช ตำบลนาเกลือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี สร้างขึ้นโดยเล็ก วิริยะพันธุ์ นักธุรกิจผู้ชื่นชอบสถาปัตยกรรมไทยและศาสนาพุทธ เขายังเป็นเจ้าของพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณและเมืองโบราณอีกด้วย ชาวบ้านเรียกชื่อปราสาทแห่งนี้โดยทั่วไปว่า "วังโบราณ" หรือ "ปราสาทไม้" ภายในปราสาทได้แฝงเนื้อหาทางปรัชญา และศิลปวัฒนธรรอันเป็นมรดกของมนุษย์ สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของศาสนาในฐานะเป็นเครื่องค้ำจุนโลก โดยเน้นหลักสำคัญคือ "ก่อกำเนิดทั้ง 7 และคุณธรรมข้อประพฤติปฏิบัติทั้ง 4" ปราสาทสัจธรรมได้รับรางวัลประเภทรายการแหล่งท่องเที่ยวดีเด่น จากรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ประจำปี พ.ศ. 2551 ทุก ๆ ชิ้นส่วนที่ถูกนำมาก่อสร้างปราสาทสัจธรรมแห่งนี้จะเป็นไม้ทั้งหมด แม้แต่ตัวล็อกที่เอาไว้เชื่อมไม้แกะสลักแต่ละชิ้น ไม่ได้ใช้ตะปู แต่ใช้ระบบเข้าเดือยไม้แบบไทย หรือ ใส่สลักไม้   ปราสาทสัจธรรมเป็นการบอกเล่าเรื่องราวของศาสนา ปรัชญา จริยธรรม อารยธรรม วัฒนธรรมดีงามของชาวเอเชียตะวันออก ซึ่ง

อุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ (จังหวัดแม่ฮ่องสอน)

รูปภาพ
"อุทยานแห่งชาติถ้ำปลา–น้ำตกผาเสื่อ" เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งหนึ่งในประเทศไทย ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน และอำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน ทางภาคเหนือของไทย มีเนื้อที่ประมาณ 305,000 ไร่ (ประมาณ 511 ตารางกิโลเมตร หรือ 200 ตารางไมล์) ถ้ำปลา เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมานานแล้ว นอกจากนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเองแล้ว ยังมีบริษัททัวร์หลายแห่งจัดรายการมาเที่ยวที่นี่ทุกปี ก่อนจะเข้าสู่ตัวเมืองแม่ฮ่องสอนและไปเที่ยวทุ่งดอกบัวตองดอยแม่อูคอในอำเภอขุนยวม ถ้ำปลาเป็นถ้ำใต้เชิงเขาซึ่งมีลำธารไหลลอดผ่านใต้ถ้ำตลอดปี และเป็นที่อยู่อาศัยของปลาพลวงหรือปลามุงจำนวนมาก นอกจากถ้ำปลาแล้ว จุดหมายหนึ่งที่คุณไม่ควรพลาดคือการได้มาชมความสวยงามของน้ำตกผาเสื่อ ซึ่งตั้งอยู่ในเส้นทางไปยังบ้านรักไท โดยคุณสามารถแวะเที่ยวน้ำตกแม่สะงากลาง น้ำตกผาเสื่อ แล้วขับรถต่อไปตามถนนลาดยาง เพื่อไปเที่ยวต่อที่บ้านรักไทเป็นจุดหมายสุดท้ายได้อย่างสะดวกอีกด้วย

ภูป่าเปาะ (จังหวัดเลย)

รูปภาพ
"ภูป่าเปาะ" ตั้งอยู่ที่บ้านผาหวาย ตำบลปวนพุ อำเภอหนองหิน จังหวัดเลย จุดเด่นที่น่าสนใจของนักท่องเที่ยว ก็คือ การได้ขึ้นไปชม บรรยากาศบนจุดชมวิวที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 900 เมตร สามารถมองเห็นภูหอซึ่งมีลักษณะเป็นภูเขาสูง เป็นภูเขายอดตัด หรือภูเขายอดราบโดยเฉพาะช่วงที่มีทะเลหมอกปกคลุม นักท่องเที่ยวเรียกว่า คล้ายภูเขาไฟฟูจิยามาในประเทศญี่ปุ่น เดิมที ภูป่าเปาะ เป็นพื้นที่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติภูค้อ-ภูกระแต และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูค้อ-ภูกระแตถูกบุกรุกแผ้วถางเพื่อทำการเกษตร จนสภาพป่าบริเวณนั้นอยู่ในขั้นเสื่อมโทรม แต่หลังจากมีการคัดเลือกผู้ใหญ่บ้านเข้ามาก็มีการฟื้นฟูสภาพป่าให้กลับคืนอุดมสมบูรณ์จนกลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เริ่มมีคนรู้จักมากขึ้นโดยเฉพาะภูหอที่มีคล้ายกับภูเขาไฟฟูจิ จุดชมวิวภูป่าเปาะมีทั้งหมด 4 จุด แต่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักชอบขึ้นไปยังจุดชมวิวที่ 4 ซึ่งจำเป็นต้องเดินเท้าไต่ความสูงขึ้นไปประมาณ 200 เมตร โดยต้องผ่านป่าเล็ก ๆ ขึ้นไปโผล่ยังจุดชมวิว ยิ่งถ้าใครต้องการมาชมพระอาทิตย์ขึ้นที่จุดชมวิวนี้ อาจจำเป็นต้องพกไฟฉายเผื่อไว้ด้วยเพื่อความปล

หมู่บ้านคีรีวง (จังหวัดนครศรีธรรมราช)

รูปภาพ
"หมู่บ้านคีรีวง" ตั้งอยู่ที่ตำบลกำโลน อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นชุมชนเก่าแก่ที่อพยพไปอาศัยอยู่เชิงเขาหลวง ตำบลกำโลน อันเป็นเส้นทางเดินขึ้นสู่ยอดเขาหลวง ชาวบ้านมีวิถีชีวิตที่สงบสังคมแบบเครือญาติ อาชีพหลัก คือการทำสวนผลไม้ผสม เรียกว่า “สวนสมรม” เช่น มังคุด เงาะ ทุเรียน สะตอ ชุมชนคีรีวง ได้เป็นชุมชนต้นแบบในการจัดการธุรกิจท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ได้รับรางวัลยอดเยี่ยม อุตสาหกรรมท่องเที่ยว ( Thailand Tourism Awards) ประจำปี 2541 ประเภทเมืองและชุมชน เนื่องจาก เป็นชุมชนที่มี วิถีชีวิตแบบชาวสวนอยู่กับธรรมชาติ และได้พัฒนา การบริการนักท่องเที่ยวขึ้นมาเป็นธุรกิจใหม่ของชุมชน ประกอบด้วย การนำทาง เดินป่า ลูกหาบ การจัดที่พักแบบโฮมสเตย์ โดยการจัดตั้งชมรมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เป็นองค์กร กลางของชาวชุมชนจัดแบ่งหน้าที่ไปยังกลุ่มต่าง ๆ ให้เกิดการมีส่วนร่วมของ ชุมชนอย่างทั่วถึง การมาท่องเที่ยวที่หมู่บ้านคีรีวงนี้ ถือว่าคุ้มค่ามากทีเดียว เพราะนอกจากจะได้มาท่องเที่ยว ในบริเวณที่มีธรรมชาติ สวยงามแล้ว ยังได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวบ้าน พร้อมกับการกินอยู่แบบพื้นบ้านอีกด้วย

เกาะไหง (จังหวัดตรัง)

รูปภาพ
"เกาะไหง" เป็นเกาะที่มีหาดทรายสีขาวดังแป้ง ยาวตลอดแนวฝั่งตะวันออก ตามแผนที่แล้ว เกาะไหงเป็นแหล่งกำบังคลื่นลมจากมหาสมุทรได้ดี ตั้งอยู่อยู่ในเขตรอยต่อของจังหวัดกระบี่ และตรัง แต่ว่าตามพื้นที่ตั้งแล้ว เกาะไหง ถือว่าเป็นเกาะที่อยู่ในเขตจังหวัดตรัง มากกว่ากระบี่ สำหรับการเดินทางจาก ท่าเรือปากเมง ในจังหวัดตรัง จะสะดวกกว่าสำหรับผู้ที่ตั้งใจจะไปเกาะไหงโดยตรง แต่ก็มีนักท่องเที่ยวไม่น้อย โดยเฉพาะชาวต่างชาติ เลือกที่จะเดินทางจาก เกาะลันตา มายังเกาะไหง จุดเด่นของเกาะไหง คือ น้ำทะเลใส ไม่ไกลนัก ทางปลายเกาะจะมีแหล่งดำน้ำตื้น (snorkeling) ชั้นยอดอยู่ ไม่ควรพลาดหากได้มาเยือน จากหน้าหาด จากที่พักบนเกาะไหง เป็นจุดชมหมู่เกาะน้อยใหญ่ได้สวยงาม ชาวต่างชาตินิยมมาอาบแดด อ่านหนังสือริมหาด หากชอบดำน้ำ ก็สามารถเช่าอุปกรณ์ ได้ที่รีสอร์ท ราคาประมาณ 50 บาท หรือซื้อทัวร์เที่ยว 4 เกาะ ราคา 700 บาท/คน มีขายอยู่ทุกวัน สี่เกาะที่ไม่ควรพลาดคือ เกาะเชือก เกาะม้า ถ้ำมรกต(เกาะมุก) อยู่อีกด้านของเกาะต้องมุดและลอยตัวเข้าไปในถ้ำ และเกาะกระดาน หรืออีกทริปที่น่าสนใจคือ เกาะรอก ขึ้นเหนือไปทางเกาะลัน

เกาะร้านเป็ด เกาะร้านไก่ (จังหวัดชุมพร)

รูปภาพ
"เกาะร้านเป็ด เกาะร้านไก่" ตั้งอยู่ในเขตอำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร ทั้งสองเกาะมีลักษณะเป็นเกาะหินปูนขนาดเล็ก ไม่มีชายหาด บ้านพัก และคนอาศัยอยู่ มีเพียงแต่นกนางแอ่นและนกนางนวลเท่านั้น ลึกลงไปใต้ท้องทะเลสีครามใส ยังคงเต็มไปด้วย ปะการังสีเหลืองอ่อน ปะการังสีขาว ปะการังสีทอง ปะการังครก ปะการังถ้วยส้ม รวมถึงฝูงปลาน้อยใหญ่ชุกชุม ทั้งปลากล้วยแถบเหลือง ปลาข้างเหลือง ปลานกแก้ว ปลานกขุนทอง ปลาการ์ตูน แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์และความหลากหลายของระบบนิเวศได้เป็นอย่างดี หากวันไหนโชคเข้าข้าง อาจเจอเจ้าถิ่นอย่างกระเบนราหู และฉลามวาฬยักษ์ใจดี โผล่พ้นน้ำมาทักทาย นักท่องเที่ยวสามารถว่ายดูอยู่ใกล้ๆ แต่ไม่ควรสัมผัสตัว ลูบหัว เพราะอาจทำให้เขาบาดเจ็บ หรือติดเชื้อแปลกปลอมจากเราได้ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เดินทางมาดำน้ำที่เกาะร้านเป็ด-เกาะร้านไก่ นิยมซื้อแพ็กเกจทัวร์ จะซื้อเป็นแบบเที่ยววันเดียว หรือ นอนค้างคืนก็มีให้เลือก โดยสามารถหาที่พักบริเวณหาดบางเบิด เพราะบนเกาะร้านเป็ด-เกาะร้านไก่ไม่มีที่พักไว้บริการนักท่องเที่ยว

บ้านอีต่อง เหมืองปิล๊อก (จังหวัดกาญจนบุรี)

รูปภาพ
"หมู่บ้านอีต่อง" หมู่บ้านเล็ก ในดินแดนแห่งหุบเขาแห่งปิล๊อก ตำบลหนึ่งในอำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี เมืองแห่งเหมืองแร่ที่เคยรุ่งเรืองในอดีต หลังจากตำนานอันรุ่งโรจน์ได้ปิดตัวคงไว้ซึ่งหมู่บ้านอันแสนสงบที่เต็มไปด้วยความงดงามของธรรมชาติ และวิถีชีวิตมิตรไมตรีอันดีของชาวบ้านทั้งชาวไทยและชาวพม่าซึ่งเป็นลูกหลานของคนงานเหมืองแร่ในอดีตที่ที่สืบทอดเชื้อสายกันมาจนปัจจุบัน ที่นี่เหมือนมีมนต์สะกดให้นักท่องเที่ยวผู้โหยหาธรรมชาติเข้ามาสัมผัสความเป็นธรรมชาติอันบริสุทธิ์ บ้านอีต่อง เป็นที่ตั้งของเหมืองปิล๊อก ที่เคยรุ่งเรืองในอดีต เมื่อราวปี พ.ศ. 2483 เหมืองขุดแร่ดีบุกที่มีคนงานร่วม 600 คน จนราคาแร่ทั่วโลกตกต่ำ ผลจากการตัดราคาของแร่จากจีน  ประมาณปี พ.ศ. 2527-2528 ความรุ่งโรจน์ของการขุดแร่ได้จบลง  ปิล๊อกที่เคยรุ่งเรือง มีตลาดที่เฟื่องฟู เคยมีโรงภาพยนตร์ถึง 2 โรงก็เงียบเหงา เหมืองแร่ต่างๆ ที่นี่ทยอยปิดตัวลง คนงานเริ่มทยอยกลับบ้านแยกย้ายกันไป ปัจจุบันนี้รายได้หลักของหมู่บ้านอีต่องคือ การท่องเที่ยว ที่พักโฮมสเตย์ เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบธรรมชาติ อากาศดี อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลกว่า 1,000 เ

สระขุนน้ำมรกต (จังหวัดเชียงราย)

รูปภาพ
"สระขุนน้ำมรกต" อยู่ในความดูแลของ วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ท้องที่ตำบลโป่งผา อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เดิมเป็นลำธารขนาดเล็ก เรียกกันว่า ขุนน้ำนางนอน ภายหลังเมื่อได้เปิดปากถ้ำไทรทองเพื่อสูบน้ำออกจากถ้ำหลวง ทำให้เกิดเป็นสระน้ำขนาดใหญ่และลึกกว่าเดิม คือลึกถึง 4 เมตร ซึ่งน้ำที่ไหลออกมามีส่วนผสมของธาตุหินปูน ปะปนกับพื้นทรายใต้บ่อน้ำ น้ำเลยไม่ขุ่น ใสสะอาดบริสุทธิ์ ส่วนถ้ำหลวง สามารถเที่ยวชมภายนอกได้ แต่ภายในถ้ำยังต้องรอรูปปั้นจ่าแซม และรอความพร้อมของภาพเขียน อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ และองค์ประกอบอื่น ๆ ให้ครบถ้วนก่อน จึงจะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการอีกครั้ง และจึงจะให้ประชาชนเข้าไปในถ้ำได้ โดยคาดว่าจะเปิดให้เข้าชมแบบหมุนเวียนเป็นรอบ ๆ รอบละไม่เกิน 300 คน

น้ำตกทีลอซู (จังหวัดตาก)

รูปภาพ
"น้ำตกทีลอซู" ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก ห่างจากที่ทำการเขตฯ 3 กิโลเมตร ทีลอซู เป็นภาษากะเหรี่ยง แปลว่า น้ำตกดำ มีลักษณะเป็นน้ำตกภูเขาหินปูนขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนความสูงจากระดับน้ำทะเล 900 เมตร เกิดจากลำห้วยกล้อท้อ ลำน้ำทั้งสายตกลงสู่หน้าผาสูงชัน มีน้ำไหลแรงตลอดปี ความกว้างของตัวน้ำตกประมาณ 500 เมตร ไหลลดหลั่นเป็นชั้น ๆ มีความสูงประมาณ 300 เมตร ล้อมรอบไปด้วยป่าดงดิบที่สมบูรณ์ เป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 6 ของเอเชีย ช่วงฤดูฝน ตั้งแต่ มิ.ย. – ก่อนถึงวันที่ 1 พ.ย.นักท่องเที่ยวจะต้องล่องเรือยางจากตัวเมืองอุ้มผางตามลำน้ำกลองซึ่งจะได้ชมวิวทิวทัศน์อละความสมบูรณ์ของ ผืนป่าตลอดเส้นทาง  ผ่านบ่อน้ำร้อน  น้ำตกทีลอจ่อที่ตกลงมาจากหน้าผาสูงและผ่านน้ำตกสายรุ้ง ซึ่งหากเดินทางไปในช่วงเวลาที่เหมาะสมก็จะเห็นรุ้งกินน้ำที่เกิดจากแสงที่ตกกระทบกับละลองน้ำของสายน้ำตก ผาผึ้ง ผาเลือด ผาบ่อง ผาโหว่ ช่วง 1 พ.ย. - เม.ย. ฤดูการท่องเที่ยว  อนุญาติให้นำรถเข้าไปได้  สามารถเดินทางโดยรถขับเคลื่อนสี่ล้อจากที่พักจน ถึงจุดกางเต้นท์ ที่ทำการเขตรักษา พันธุ์

ผาเก็บตะวัน (จังหวัดนครราชสีมา)

รูปภาพ
"ผาเก็บตะวัน" ตั้งอยู่ที่อุทยานแห่งชาติทับลาน ต.ไทยสามัคคี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา เป็นที่ตั้งของหลักแบ่งเขตจังหวัดปราจีนบุรี และจังหวัด นครราชสีมา เป็นจุดชมวิวที่สวยงามแห่งหนึ่งของอุทยานแห่งชาติทับลานมีวิวธรรมชาติที่สวยงาม สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและลับขอบฟ้าในยามเย็น นอกจากนี้หากในช่วงฤดูฝนอาจได้มีโอกาสพบเห็นสายหมอกในยามเช้าอีกด้วย “ผาเก็บตะวัน” เป็นหน้าผายาว พื้นที่กว้างมีบรรยากาศสดชื่น เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมากางเต็นท์ ดังนั้นในช่วงฤดูหนาว บนผาเก็บตะวันจึงเต็มไปด้วยเต็นท์จำนวนมากมาย สำหรับท่านที่ไม่ได้วางแผนค้างคืนบนผาชมตะวัน เวลาที่เหลือก่อนพระอาทิตย์ตก สามารถนำไปสร้างความสนุกสนานพร้อม ๆ กับทำประโยชน์ให้แก่อุทยานฯ ได้โดยสละสตางค์คนละ 10 บาท เพื่อซื้อลูกพันธุ์ไม้ลักษณะ ลูกกลม ๆ คล้ายลูกหิน ส่วนหนังสติ๊ก (อุปกรณ์นั้นมีให้ยืม)

วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว (จังหวัดอุบลราชธานี)

รูปภาพ
"วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว"  หรือนิยมเรียกกันว่า วัดเรืองแสง ตั้งอยู่ที่  อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง โดยจำลองสภาพแวดล้อมของวัดป่าหิมพานต์หรือเขาไกรลาศ  บริเวณบนยอดเขาจะมองเห็นพระอุโบสถสีปัดทองตั้งเด่นเป็นสง่า  จุดเด่นของวัดคือ การได้มาชมภาพเรืองแสงเป็นสีเขียวของต้นกัลปพฤกษ์ที่เป็นจิตรกรรมที่อยู่บนผนังด้านหลังของอุโบสถในยามค่ำคืน ซึ่งช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการมาชมและถ่ายภาพคือ ตั้งแต่เวลา 6.00.19.30 น. ซึ่งหากโชคดีก็จะได้เห็นดวงดาวมากมายเต็มท้องฟ้า อีกด้วย  แต่ภาพเรืองแสงนี้หากมองด้วยตาเปล่าจะเห็นเพียงเล็กน้อย จะไม่เห็นเป็นสีเขียวชัดเจนเท่ากับภาพที่ถ่ายด้วยกล้องถ่ายภาพ เพราะฉะนั้นนักท่องเที่ยวบางท่านที่มาเก็บภาพความงดงามผ่านสายตาต้องเผื่อใจไว้เล็กน้อย สำหรับต้นกัลปพฤกษ์หลังอุโบสถวัดสิรินธรวรารามภูพร้าวแห่งนี้ เป็นผลงานการออกแบบของช่างคณากร ปริญญาปุณโณ ผู้เป็นเจ้าของไอเดียใช้สารเรืองแสงที่เรียกว่า ฟอสเฟอร์ (Phosphor) ทาลงไปที่ต้นกัลปพฤกษ์ ซึ่งในช่วงกลางวันต้นกัลปพฤกษ์ต้นนี้จะดูดแสงแดดเอาไว้ เมื่อตกกลางคืนก็จะปรากฏเป็นต้นไม้เรืองแสงง

วัดป่าภูก้อน (จังหวัดอุดรธานี)

รูปภาพ
"วัดป่าภูก้อน" ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่านายูงและป่าน้ำโสม ท้องที่บ้านนาคำ ตำบลบ้านก้อง อำเภอนายูง จังหวัดอุดรธานี อันเป็นรอยต่อแผ่นดิน 3 จังหวัด คือ อุดรธานี เลย และหนองคาย เกิดขึ้นจากพุทธบริษัท ที่ตระหนักถึงคุณประโยชน์ของธรรมชาติและป่าต้นน้ำลำธาร ซึ่งกำลังถูกทำลาย และเพื่อตามรอยพระยุคลบาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการรักษาความสมบูรณ์ของป่าไม้ต้นน้ำลำธาร สัตว์ป่า และพรรณไม้นานาพันธุ์ ให้เป็นมรดกของลูกหลานไทยคู่กับแผ่นดินไทย วัดป่าภูก้อน จะเป็นสถานที่ที่สงบเหมาะแก่การบำเพ็ญภาวนาของพระสายกรรมฐาน พระวิหารที่สวยงามสะดุดตาของวัดป่าภูก้อน ได้รับออกแบบวิศวกรรมโครงสร้าง องค์พระพุทธรูปหินอ่อน พระวิหาร ศาลาราย และอาคารรอบลานเขา โดยพระวิหารมีลักษณะเป็นสถาปัตยกรรมไทยประยุกต์สมัยรัตนโกสินทร์ มีประตูทางเข้าออกวิหาร 3 ด้าน ภายในถูกตกแต่งอย่างวิจิตรตระการตา แฝงไปด้วยเรื่องราวคำสอนของพระพุทธเจ้า รอบผนังภายในวิหารตกแต่งอย่างสวยงามด้วย ภาพพุทธประวัติและภาพทศชาติ ตกแต่งเป็นภาพปั้นนูนต่ำหล่อด้วยทองแดงจำนวน 22 ช่อง ซึ่งเป็นภาพของพระพุทธเจ้าในองค์ชาติต่างๆ 10 ชาติ เป็นการสื่อคว

วัดบูรพาภิราม (จังหวัดร้อยเอ็ด)

รูปภาพ
"วัดบูรพาภิราม" ตั้งอยู่ที่ถนนผดุงพานิช ตำบลในเมือง ในเขตเทศบาลเมือง มีพระพุทธรูปปางประทานพรที่สูงที่สุดในประเทศไทยคือ พระพุทธรัตนมงคลมหามุนี หรือหลวงพ่อใหญ่ประทับยืนเด่นเป็นสง่ามองเห็นได้จากระยะไกล เป็นที่เคารพเลื่อมใสของชาวร้อยเอ็ด นอกจากนี้องค์พระเจ้าใหญ่ยังเป็นสัญลักษณ์ประจำจังหวัด ตามคำขวัญของเมืองร้อยเอ็ดว่า "สิบเอ็ดประตูงาม เรืองนามพระสูงใหญ่ ผ้าไหมสาเกตุ บุญผะเหวดประเพณี มหาเจดีย์ไชยมงคลงาม น่ายลบึงพระลานชัย เขตกว้างไกลทุ่งกุลา โลกลือชาข้าวหอมมะลิ" พระพุทธรัตนมงคลมหามุนี หรือพระเจ้าใหญ่ สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2516 องค์พระนั้นสร้างขึ้นด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก ความสูงของ องค์พระวัดจากพระบาทถึงยอดเกศสูงถึง 59 เมตร 20 เซนติเมตร และมีความสูงทั้งหมด 67 เมตร 85 เซนติเมตร ที่ฐานพระพุทธรูป องค์นี้มีห้องที่ใช้ในศาสนกิจและห้องพิพิธภัณฑ์จำนวนหลายห้อง วัดบูรพาภิราม เป็นพระอารามหลวง ชั้นตรี ชนิดสามัญสังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย สร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ.2456  เดิมชื่อ วัดหัวรอ เนื่องจากในสมัยนั้นที่วัดแห่งนี้ ได้ใช้เป็นสถานที่สำหรับพักค้างแรมของพ่อค้าและประชานที่อาศั

วัดพระธาตุเชิงชุม (จังหวัดสกลนคร)

รูปภาพ
"วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร" ตั้งอยู่ที่ริมหนองหาน ถนนเจริญเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร จะมีงานนมัสการพระธาตุประจำปี เริ่มตั้งแต่วันขึ้น 11 ค่ำ ถึง 15 ค่ำ เดือนยี่ สร้างขึ้นเมื่อใดไม่ปรากฏหลักฐานชัด แต่นับเป็น ปูชนียสถานสำคัญคู่บ้านคู่เมืองสกลนครมาแต่โบราณ ภายในวิหารใกล้พระธาตุเชิงชุม เป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อองค์แสนอันศักดิ์สิทธิ์ เป็น ที่เคารพนับถือ และเป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชนในจังหวัดสกลนคร ภายในมีรอยพระพุทธบาท 4 พระองค์ นับตั้งแต่พระกกุสันทะ พระโกนาคม พระกัสสะปะ และพระโคดม  วัดพระธาตุเชิงชุม  นับเป็นดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์ ดังคำกล่าวที่ว่า “จะมีครั้งไหนที่ได้อานิสงส์มากไปกว่าการได้มาบูชา พระธาตุที่สร้าง ครอบรอยพระบาทแห่งพระพุทธเจ้าถึง 4 พระองค์” เชื่อกันว่าอานิสงส์ในการนมัสการพระธาตุเชิงชุมนั้นจะก่อให้เกิดความ เป็นสิริมงคลสูงสุดแก่ตนเองและครอบครัวให้มีความเจริญรุ่งเรือง แคล้วคลาดปราศจากอันตราย รวมไปถึงการนมัสการหลวงพ่อ พระองค์แสน ที่เชื่อกันว่าให้พรในด้านโชคลาภ ให้มีเงินทองนับหมื่นนับแสน มีความมั่งมีศรีสุขในชีวิต ในทุกวันจะมีประชาชนมากราบ ไหว้พระธ

มอหินขาว (จังหวัดชัยภูมิ)

รูปภาพ
"มอหินขาว" ตั้งอยู่ใน เขตอุทยานแห่งชาติภูแลนคา ตำบลท่าหินโงม อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ มีลักษณะเป็นเสาหินและแท่งหิน เป็นปฏิมากรรมที่เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ กระจัดกระจายอยู่ตามจุดต่างๆกลายเป็นกลุ่มหินที่มีความสวยงามแปลกตา กลุ่มหินที่มอหินขาว เป็นหินทรายสีขาว นอกจากนี้ก็ยังมี หินทรายแป้ง หินโคลน หินทรายสีม่วง มอหินขาว มีกลุ่มหินอยู่หลายแห่งด้วยกัน มอหินขาว มีกลุ่มหินอยู่หลายแห่งด้วยกัน เมื่อเรามาถึงมอหินขาว  ก็จะถึง กลุ่มหินชุดแรก คือ “เสาหิน 5 ต้น” เป็นหินที่มีความสูง ประมาณ 12 เมตร จำนวนหนึ่งใน 5 มีต้นหนึ่งที่มีขนาดใหญ่ขนาด 22 คนโอบ เสาหิน 5 ต้นนี้นับเป็น เสาหินที่เด่นที่สุด และเป็นจุดน่าสนใจของการมาเที่ยวมอหินขาว เสาหินและแท่งหิน ที่มอหินขาว ส่วนใหญ่ เป็นหินทรายสีขาว นอกจากนี้ก็ยังมี หินทรายแป้ง หินโคลน หินทรายสีม่วง หากมาท่องเที่ยวในฤดูฝน นอกจากนักท่องเที่ยว จะได้ พบเห็น ประติมากรรมทางธรรมชาติที่สวยงามของเสาหินแล้ว ยังได้พบดอกไม้ป่าที่บ้านสะพรั่งอยู่ทั่วมอหินขาวดูแล้ว เป็นภาพที่ สวยงามและน่าชมนัก  หากคุณได้เข้ามาสัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งป่าเขาที่นี่แล้วจะชวนค

วัดพระธาตุลำปางหลวง (จังหวัดลำปาง)

รูปภาพ
"วัดพระธาตุลำปางหลวง" ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลตำบลลำปางหลวง อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง อยู่ห่างจากตัวเมืองลำปางไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 18 กิโลเมตร วัดตั้งอยู่บนเนินสูง มีการจัดวางผังและส่วนประกอบของวัดสมบูรณ์แบบที่สุด มีสิ่งก่อสร้าง และสถาปัตยกรรมต่าง ๆ บริเวณพุทธาวาสประกอบด้วย องค์พระธาตุลำปางหลวง เป็นประธาน มีบันไดนาคนำขึ้นไปสู่ซุ้มประตูโขง ถัดซุ้มประตูโขงขึ้นไปเป็น วิหารหลวง บริเวณทิศเหนือขององค์พระธาตุมีวิหารบริวารตั้งอยู่คือ วิหารน้ำแต้ม และ วิหารต้นแก้ว ด้านตะวันตกขององค์พระธาตุประกอบด้วย วิหารละโว้ และ หอพระพุทธบาท ด้านใต้มี วิหารพระพุทธ และอุโบสถ ทั้งหมดนี้จะแวดล้อมด้วยแนวกำแพงแก้วทั้งสี่ด้าน นอกกำแพงแก้วด้านใต้มีประตูที่จะนำไปสู่เขตสังฆาวาส ซึ่งประกอบด้วยอาคาร หอพระไตรปิฎก กุฏิประดิษฐาน พระแก้วดอนเต้า อาคารพิพิธภัณฑ์และกุฏิสงฆ์ พุทธศตวรรษที่ 20 ตอนปลายเป็นวัดไม้ที่สมบูรณ์ที่สุด แห่งหนึ่งของไทย งดงามด้วยสถาปัตยกรรมเก่าแก่ มากมายพระธาตุลำปางหลวง เป็นพระธาตุประจำปีเกิดของ คนปีฉลู ด้วยเริ่มสร้างในปีฉลูและเสร็จในปีฉลู เช่นกัน ฐานเป็นบัวลูกแก้ว ส่วนองค์